Image

ขบวน “เดินหยุดแลนด์บริดจ์” จากชายฝั่งอันดามัน มุ่งไปคัดค้านการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ ๓ หรือ ค. ๓ ของโครงการสร้างท่าเรือน้ำลึกบริเวณแหลมอ่าวอ่าง

แลนด์บริดจ์
LAND BRIDGE
สะพานข้ามชีวิต

เรื่อง : ฐิติพันธ์ พัฒนมงคล
ภาพ : ณัฐพล พันธ์พงษ์สานนท์, วิจิตต์ แซ่เฮ้ง

“ร่างกายฉันไม่ไหวหรอก แต่ใจฉันสู้และฉันจะเดินจากอ่าวอ่างไปเมืองระนองที่จัดเวที ค. ๓ ใครจะเดินกับฉันก็มา”

ไม่กี่วันก่อนจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ ๓ โครงการพัฒนาท่าเรือบริเวณแหลมอ่าวอ่าง อำเภอเมืองระนอง “มะทม” หรือ ทม สินสุวรรณ ออกเดินจากบ้านห้วยปลิงไปยังศาลากลางจังหวัดระนองเพื่อแสดงออกถึงการคัดค้านโครงการนี้

มะทมเป็นคนไทยพลัดถิ่นอายุ ๖๗ ปี ได้รับสัญชาติและบัตรประชาชนเมื่อ ๒๐ ปีก่อน ทำประมงพื้นบ้านอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ริมอ่าวอ่าง

การถมทะเลเพื่อสร้างท่าเรือน้ำลึกเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (Southern Economic Corridor : SEC) ที่มีโครงการแลนด์บริดจ์ (Land Bridge) เป็นตัวชูโรงกำหนดให้สร้างท่าเรือน้ำลึกนอกชายฝั่งจังหวัดระนองและชุมพร ทางหลวงพิเศษขนาดหกช่องจราจร พร้อมทางรถไฟ เชื่อมท่าเรือทั้งสองฝั่งจากอันดามันไปยังอ่าวไทย

เฉพาะท่าเรือน้ำลึกบริเวณแหลมอ่าวอ่าง--บ้านของมะทม ต้องถมทะเล ๖,๙๗๕ ไร่ ใหญ่กว่าเกาะหลีเป๊ะ ๓.๔ เท่า 

“ที่ตั้งท่าเรืออยู่กลางอ่าวอ่าง ทับดอนตาแพ้วซึ่งอุดมสมบูรณ์มาก เป็นพื้นที่ทำกินของชาวบ้านมาหลายชั่วอายุคน ฉันไม่รู้จะพึ่งใคร เลยมาบอกกล่าวหน้าหลุมศพของโต๊ะหยีสีมบนเกาะสนขอให้ช่วยดูแลลูกหลาน ขอให้โครงการถูกยกเลิก”

หญิงมุสลิมบอก ก่อนออกเดินตามทางเล็ก ๆ มุ่งสู่เมืองเบื้องหน้า

Image

ในช่วงต้น มะทมเดินนำหน้าผู้คนไปบนเส้นทางที่แวดล้อมด้วยผืนป่าดิบภาคใต้ 

Image

อภิมหาโปรเจกต์
แห่งศตวรรษ

จากบ้านห้วยปลิงริมอ่าวอ่างไปศาลากลางจังหวัดระนองเป็นระยะทางประมาณ ๔๕ กิโลเมตร มะทมต้องเดินผ่านป่าชายเลนเข้าไปในเขตเมือง

ระยะทางไม่ถึงครึ่งเมื่อเทียบกับ ๑๐๙ กิโลเมตรของโครงการแลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง ที่จะทอดผ่านคาบสมุทรภาคใต้แต่ก้าวย่างของมะทมมีความหมาย

Image

0