Image

ฤดูฝนทำให้พื้นที่ในที่ลุ่มต่ำกลายเป็นหนองน้ำชั่วคราว เต็มไปด้วยจูด ผักแว่นใบมัน ขาเขียด สันตะวา และบัวบาน ปัจจุบันสวรรค์เล็ก ๆ แห่งนี้ถูกปรับพื้นที่จนสิ้นสภาพหนองน้ำไปแล้ว เพื่อใช้ประโยชน์อย่างอื่น

สรวงสวรรค์เล็กจิ๋ว
บนสันทรายชายฝั่งโบราณ

Hidden Paradise
ก่อนธรรมชาติจะสูญหาย

เรียบเรียงและภาพ : จิตรทิวัส พรประเสริฐ

บนคันนาร้างท่ามกลางแดดจ้า ไร้เงาไม้ และอากาศชื้นอบอ้าวของฤดูฝน ผมนอนราบกับดินทรายละเอียดเพื่อถ่ายภาพเพื่อนใหม่ จอกบ่วาย (Drosera burmannii) พืชต้นจิ๋วขนาดเท่าเหรียญบาท คล้ายจานบินในหนังไซไฟ แต่แทนที่จะลอยอยู่บนฟ้า มันกลับอยู่ติดดินใกล้ริมถนนหลวงกลาง อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี

มองรอบ ๆ ล้วนรายล้อมด้วยทุ่งนา ถ้าบอกว่าบริเวณนี้เป็นพื้นที่สันทรายชายฝั่งทะเลโบราณก็คงไม่มีใครเชื่อ แต่หลักฐานทางธรณีวิทยาบ่งบอกชัดเจนว่าหลายพันปีก่อนที่นี่คือชายฝั่งทะเลดั้งเดิม

หลังถ่ายภาพครั้งแรกเรากลายเป็นเพื่อนรัก นัดพบกันปีละครั้งเพียงไม่กี่เดือน ด้วยข้อจำกัดตามวัฏจักรธรรมชาติของเหล่าพืชขนาดเล็กบนสันดอนทรายโบราณ ซึ่งต้องรอสายฝนปลุกให้งอกเงย เบ่งบาน สืบพันธุ์ ก่อนพักตัว ทิ้งเมล็ด และสลายไปกับฤดูแล้งและสายลมหนาวที่พัดโชย รอฤดูกาลหน้าเวียนกลับมาอีก

Image

นักพฤกษศาสตร์จากมหาวิทยาลัยศิลปากร กำลังเก็บตัวอย่างพืชเพื่อศึกษาองค์ประกอบของพรรณไม้บนสันทรายโบราณ

จอกบ่วายยังพาผมไปรู้จักเพื่อนใหม่ ๆ และเรื่องราวการดำเนินชีวิตในโลกเล็ก ๆ ของพวกเขา อย่างสาหร่ายข้าวเหนียว (Utricularia spp.), หญ้าน้ำค้าง (Eleocharis spp.) ฯลฯ

นับตั้งแต่เริ่มถ่ายภาพธรรมชาติมา ๑๒ ปี ผมเคยดั้นด้นไปยังผืนป่าห่างไกลหลายแห่ง แสวงหาพืชและสัตว์หายาก แต่ด้วยความสงสัยหรือแรงดึงดูดบางอย่าง ตลอด ๔ ปีที่ผ่านมาผมเลือกผจญภัยในสถานที่ใกล้ตัวซึ่งตกสำรวจ ได้ค้นพบว่ามักเต็มไปด้วยเพื่อนใหม่ให้ทำความรู้จักและทักทาย พวกมันเป็นดั่ง hidden paradise หรือสรวงสวรรค์ซ่อนเร้น

ขณะที่โลกตะวันตกมุ่งศึกษาป่าดงดิบและป่าชายเลนในเขตร้อน พากันมองข้ามพื้นที่สันทราย แม้จะมีนักพฤกษศาสตร์บางกลุ่มพยายามศึกษาวิจัย แต่เสียงของพวกเขายังเบาเกินไป  พื้นที่ลักษณะเฉพาะนี้จึงเผชิญการทำลายจากการถมที่ ขุดสระ หรือแม้กระทั่งการ “ทำความดี” อย่างการปลูกต้นไม้ (ในนามของการ “ปลูกป่า”) ทับพื้นที่เดิม

สวรรค์เล็ก ๆ ซ่อนตัวอยู่กลางพื้นที่เกษตรกรรม โลกใบจิ๋วที่เติบโตในที่ลุ่มสันทรายโบราณ

0