“ไม่ได้นั่งเพียงให้ถ่ายรูปอย่างเดียวนะ แต่เราภาวนาจริงๆ” พระอาจารย์มหาบัว ญาณสมฺปนฺโน กล่าวกับผู้ที่มาขอถ่ายภาพนี้ เป็นแบบอย่างของการอยู่กับการปฏิบัติภาวนาวิปัสสนาตลอดเวลา
ปฏิปทา
เรื่อง : วีระศักร จันทร์ส่งแสง
ภาพ : ประเวช ตันตราภิรมย์
วัตรปฏิบัติพระป่า
“ท่านจะสอนพวกเราให้ประกอบความเพียรตั้งแต่หัวค่ำ จนกระทั่งเวลา ๔ ทุ่ม ก็จำวัดพักผ่อนตามอัธยาศัย พอถึงตี ๓ ท่านก็เตือนให้ลุกขึ้นมาบำเพ็ญเพียร เดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา หรือทำวัตรสวดมนต์ตามที่เราถนัด”
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย บันทึกถึงพระอาจารย์เสาร์ผู้เป็นพ่อแม่ครูอาจารย์ ไว้ในหนังสือ ฐานิยตฺเถรวตฺถุ
“อันนี้เป็นการฝึกหัดดัดนิสัยให้มีระเบียบ นอนก็มีระเบียบตื่นก็มีระเบียบ การฉันก็ต้องมีระเบียบ คือฉันหนเดียวเป็นวัตร ฉันบาตรเป็นวัตร บิณฑบาตฉันเป็นวัตร อันนี้เป็นข้อวัตรที่ท่านถือเคร่งครัดนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อฉันในบาตร ฉันหนเดียว อันนี้ท่านยึดเป็นหัวใจหลักของการปฏิบัติกัมมัฏฐานเลยทีเดียว”
ข้อวัตรปฏิบัติที่เป็นหัวใจของพระป่า อยู่ที่ถือธุดงควัตรเคร่งครัด โดยเฉพาะสองข้อดังกล่าว ฉันมื้อเดียว ฉันในบาตร
พระราชสังวรญาณ (พุธ ฐานิโย) ยังเล่าถึงหลักการสอนสมถวิปัสสนาของพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล ไว้ด้วยว่า
“สอนให้พิจารณากายคตาสติ พิจารณาอสุภกัมมัฏฐาน จนคล่องตัวจนชำนิชำนาญแล้ว ก็สอนให้พิจารณาธาตุกัมมัฏฐาน ให้พิจารณากายแยกออกเป็นธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ แล้วก็พยายามพิจารณาว่าในร่างกายของเรานี้ไม่มีอะไร มีแค่ธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ ประชุมกันอยู่เท่านั้น หาสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา ไม่มี ในเมื่อฝึกฝนอบรมให้พิจารณาจนคล่องตัว จิตก็จะมองเห็นสิ่งที่ไม่มีตัวตน คือเห็นว่าร่างกายนี้ ไม่ใช่ตัว เป็นอนัตตาทั้งนั้น จะมีตัวมีตนเมื่อแยกออกไปแล้ว มันก็มีแค่ธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ มีปฏิสนธิจิต ปฏิสนธิวิญญาณมายึดครองอยู่ในร่างกาย อันนี้ เราจึงสมมติบัญญัติว่า สัตว์ บุคคล ตัวตนเรา เขา”
ท่านยังเล่าถึงวิถีกัมมัฏฐานที่ท่านพระอาจารย์ใหญ่องค์แรกของสายพระป่าธรรมยุตนำดำเนินมาเป็นต้นแบบ
“พระบูรพาจารย์ของเรา เราถือว่าพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล เป็นพระอาจารย์องค์แรก และเป็นผู้นำหมู่คณะลูกศิษย์ลูกหาออกเดินธุดงค์กัมมัฏฐาน ชอบพักพิงอยู่ตามป่าตามที่วิเวก อาศัยอยู่ตามถ้ำบ้าง ตามโคนต้นไม้บ้าง และท่านอาจารย์มั่นก็เป็นอีกท่านหนึ่งซึ่งเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์เสาร์ หลวงพ่อสิงห์ ขนฺตยาคโม ก็เป็นลูกศิษย์ท่านอาจารย์มั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระอาจารย์สิงห์เปรียบเสมือนหนึ่งว่าเป็นเสนาธิการใหญ่ของกองทัพธรรม ได้นำหมู่คณะออกเดินธุดงค์ไปตามราวป่าตามเขา อยู่อัพโภกาส อยู่ตามโคนต้นไม้ อาศัยอยู่ตามถ้ำ พักพิงอยู่ในราวป่าห่างจากหมู่บ้านประมาณ ๕๐๐ เมตร การธุดงค์ของพระอาจารย์เสาร์ พระอาจารย์มั่น พระอาจารย์สิงห์จะไม่นิยมที่จะไปปักกลดอยู่ตามละแวกบ้าน ตามสนามหญ้า หรือตามบริเวณโรงเรียน หรือใกล้ ๆ กับถนนหนทางในที่ซึ่งเป็นที่ชุมนุมชน ท่านจะออกแสวงหาวิเวกในราวป่าห่างไกลกันจริง ๆ”
ต่อมาพระญาณวิศิษฏ์สมิทธิวีราจารย์ (สิงห์ ขนฺตยาคโม) ได้เขียน “ข้อกติกาสงฆ์สัมมาปฏิบัติ ว่าด้วยข้อปฏิบัติดีปฏิบัติชอบของสำนักพระคณะกัมมัฏฐาน” ไว้เป็นหลักปฏิบัติร่วมกันของหมู่คณะ พระป่าผู้สมาทานวิถีกัมมัฏฐาน
เน้นแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงสอนให้บำเพ็ญศีล สมาธิ ปัญญา ด้วยวิธีเจริญสมถกัมมัฏฐานและวิปัสสนากัมมัฏฐาน “จนกว่าจะเอาตนพ้นจากทุกข์ในวัฏสงสารได้จริง ๆ เมื่อยังไม่พ้นทุกข์ก็ให้อุตสาหะพยายามทำความเพียรอยู่อย่างนั้นตราบเท่าสิ้นชีวิต”
ในเรื่องนี้พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต เมื่ออยู่ในช่วงปัจฉิม จำพรรษาอยู่ที่วัดป่าบ้านหนองผือ จังหวัดสกลนคร มีคุณยายอุบาสิกาที่เป็นนักภาวนามากล่าวกับท่านว่า จิตหลวงพ่อพ้นไปนานแล้ว หลวงพ่อจะภาวนาไปเพื่ออะไร
พระอาจารย์มหาบัว ญาณสมฺปนฺโน ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วยเล่าว่า พระอาจารย์มั่นตอบเป็นอุบายสอนธรรมคุณยายไปด้วยว่า “ภาวนาไปจนวันตายไม่มีถอย ใครถอยผู้นั้นไม่ใช่ศิษย์ตถาคต”