ครอบครัวของนิเวศน์และทับทิมจะต้มชากับสมุนไพรดื่มเป็นประจำด้วยเตาไฟในกระบะดินที่มีเชื้อเพลิงเป็นไม้สน
ฝูงปลามง (Jack fish) บริเวณกองหินริเชลิว ทะเลอันดามัน
ภาพ : 123rf.com
เรื่องและภาพ : ดร. ชวลิต วิทยานนท์
สถานการณ์ของโลกและประเทศไทยในปัจจุบันมีหลายสิ่งได้ก้าวเกิน “ขีดเส้นตายของพื้นพิภพ” (planetary boundaries) ไปแล้ว และสิ่งที่เกินเส้นตายไปมากที่สุดคือการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ทั้งในระดับความหลากชนิด ระบบนิเวศ ปัจจัยที่ก่อผลกระทบต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์และพืชมากสุด เรียกเป็นคำย่อภาษาอังกฤษได้ว่า HIPPO มาจาก
H = Habitat Loss หมายถึงการสูญเสียถิ่นอาศัยประเภทต่าง ๆ จากการพัฒนาเพื่อเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศให้เป็นสิ่งก่อสร้าง หรือใช้ประโยชน์ที่ดินซึ่งต้องถากถางทำลายระบบนิเวศเดิม ปัจจัยนี้นับเป็นสาเหตุใหญ่สุดของการทำลายความหลากหลายทางชีวภาพและการสูญพันธุ์
I = Invasive Species หมายถึงการรุกรานของสิ่งมีชีวิตต่างถิ่นที่รุกรานบางชนิดหรือหลายชนิด ทำให้ชนิดดั้งเดิมสูญเสียประชากรและระบบนิเวศเสื่อมสภาพลงจนไม่อาจฟื้นคืนหรือต้องใช้ทรัพยากรมากมายในการแก้ปัญหา ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เช่น การระบาดของปลาหมอคางดำในชายฝั่งอ่าวไทย
P = Pollution หมายถึงมลภาวะจากกิจกรรมที่คนปล่อยสู่ระบบนิเวศ สำหรับสัตว์น้ำ มลภาวะที่ส่งผลต่อการสูญพันธุ์มากที่สุดมาจากภาคการเกษตร ซึ่งใช้ยากำจัดศัตรูพืชอันเป็นพิษต่อชนิดที่มีความเปราะบาง มลพิษจากอุตสาหกรรมที่ไม่ควบคุมบำบัดมักทำลายชนิดสัตว์น้ำในแม่น้ำ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการสูญหายไปของปลายี่สกจากแม่น้ำแม่กลอง อันเป็นผลจากการปล่อยน้ำเสียของโรงงานต่าง ๆ หรือสารอาหารที่มากเกินจากปริมาณปุ๋ยที่ใช้ ก็ทำให้เกิดภาวะน้ำแดงในทะเลได้
P = human over Population หมายถึงการเพิ่มของประชากรมนุษย์ที่เกินความจุของพื้นที่ ขับดันให้ใช้ทั้งทรัพยากรชีวภาพในพื้นที่ระบบนิเวศมากขึ้นและแก่งแย่งกัน รวมถึงกดดันให้ปัจจัยอื่น ๆ เช่น การก่อมลพิษ การเก็บเกี่ยว เพิ่มขึ้นด้วยอย่างไรก็ตามการจัดสรรแบ่งปันทรัพยากรที่เหมาะสมก็ลดผลกระทบจากปัจจัยนี้ได้อย่างมาก
และ O = Over-harvesting หมายถึงการเก็บเกี่ยวที่มากเกินพอจากทรัพยากรชีวภาพจนทดแทนไม่ทันและก่อการ
สูญพันธุ์ต่อหลายชนิด ทั้งชนิดที่เป็นเป้าหมายหรือผลพลอยได้ เช่น การล่าสัตว์ป่า การเก็บพืชป่าที่ไม่ควบคุม รวมถึงการค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมาย การประมงที่ขาดการควบคุมจนเกินขนาดของกำลังผลิตทดแทนของธรรมชาติ เช่น การปั่นส่องไฟจับปลาด้วยอวนตาถี่ อวนลากหน้าดิน และการจับปลาในฤดูวางไข่ เป็นต้น
ปัจจัยทั้งหมดนี้หากไม่ได้รับการป้องกันแก้ไขทันท่วงทีก็นำมาซึ่งการสูญพันธุ์ของทั้งชนิดสัตว์และพืชที่สำคัญจากทุกระบบนิเวศ
ชีวภูมิศาสตร์
และระบบนิเวศ
ของปลาทะเลไทย
หมู่เกาะสิมิลัน ทะเลอันดามัน
ภาพ : 123rf.com
น่านน้ำทะเลไทยมีพื้นที่รวมกันประมาณ ๓๒๓,๔๘๘ ตารางกิโลเมตร แบ่งตามภูมินิเวศทะเลของโลก (Marine Ecoregions of the World) เป็นสองส่วนใหญ่ ๆ คือ อ่าวไทยและทะเลอันดามัน
อ่าวไทย (Gulf of Thailand) อยู่ใน Marine Ecoregions of the World No.115 เป็นน่านน้ำภายในที่อยู่ส่วนตะวันตก สุดของทะเลจีนใต้และฝั่งของมหาสมุทรแปซิฟิก มีลักษณะเป็นอ่าวกึ่งปิด ล้อมรอบด้วยชายฝั่งของคาบสมุทรมลายูทางทิศตะวันตกและปลายแหลมญวนของประเทศเวียดนาม
อ่าวไทยมีความกว้างประมาณ ๓๘๐ กิโลเมตร ความยาวประมาณ ๘๑๐ กิโลเมตร ส่วนที่กว้างที่สุดประมาณ ๕๔๐ กิโลเมตร พื้นท้องทะเลอ่าวไทยมีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ มีความลึกเฉลี่ยประมาณ ๔๔ เมตร ตอนกลางอ่าวมีความลึกประมาณ ๖๐ เมตร ลึกมากที่สุดประมาณ ๘๖ เมตร มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๒.๗ แสนตารางกิโลเมตร
แผนที่แสดงชีวภูมิศาสตร์และระบบนิเวศของปลาทะเลไทย
ภาพ : https://www.guideoftheworld.com/thailand-map.html