ฮีโข่นุ ปะปะ ผู้นำทางจิตวิญญาณวัย ๘๒ ปี เขียนบทธาชะปก่าลงบนหนังสือแบบร่าง “บทธาปกาเกอะญอ” ที่นุและคนอื่น ๆ ช่วยกันรวบรวมคำร้องให้กลายเป็นคำอ่าน ส่งต่อธาแก่คนรุ่นหลัง
ปกาเกอะญอห้วยหินลาดใน :
เรียงร้อยชีวิตด้วยบทธา
ความตายและผืนป่าไม่แยกจากกัน
“อยู่ดี ตายดี” ชีวิตงาม และความตายในอุดมคติ
เรื่อง : กฤษณา หรนจันทร์
ภาพ : สิรินธร เผ่าพงษ์ไทย
ฝนในเดือนสิงหาคมกระหน่ำหนักหน่วง ต้นข้าวโยกไหวเป็นจังหวะเดียวกัน ฤดูเพาะปลูกเริ่มต้นสักพักแล้ว การเฉลิมฉลองช่วงกลางปีกำลังตามมา ได้เวลาที่ “พวกเขา” จะขับขานความเชื่อ บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ทางจิตวิญญาณและถักทอธา-บทกวีแห่งปกาเกอะญอ
ณ ที่นี้ ผืนป่าและผู้คนเป็นหนึ่งเดียวกัน มีคำสอนเก่าแก่คอยเตือนใจว่าชีวิตจะจบลงและเริ่มต้นใหม่เช่นเดียวกับต้นไม้ที่ถูกตัดเหลือเพียงตอ ทว่าไม่เคยตาย
มัดมือ เส้นด้าย สายฝน
ใต้ม่านฝนขนาดใหญ่ที่คลุมท้องฟ้ามีผืนป่าและผู้คน ณ ที่นี้ ห้วยหินลาดใน หมู่บ้านในหุบเขา สูงราว ๙๐๐ เมตรจากระดับน้ำทะเล มีผู้อยู่อาศัยเพียง ๒๐ กว่าหลังคาเรือน หมอกกระจายตัวปกคลุมต้นไม้ใหญ่ที่เรียงตัวสูงขึ้นไปบนเนินเขา คล้ายกับว่าเหล่าต้นไม้กำลังหายใจออกมาพร้อม ๆ กัน
อุณหภูมิในบ้านไม้มีใต้ถุนหลังหนึ่งอบอุ่นขึ้น เตาไฟในกระบะดินที่มุมครัวมีไฟปะทุเปรี๊ยะ ๆ ส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของไม้สนที่ชายชราเจ้าของบ้านโยนเข้าไป เสมือนเวทมนตร์ลึกลับกำลังกระจายผ่านควันบาง ๆ
เจ้าของบ้านกำลังจัดเตรียมอาหารใส่โตก สำรับนี้ประกอบด้วยข้าวสวย ต้มหมูใบชะมวง ต้มไก่สมุนไพร น้ำพริกพร้อมผักหลากชนิด และเหล้าหมักถ้วยหนึ่ง ไอร้อนของอาหารกระทบแดดเช้าจากหน้าต่างทางด้านทิศตะวันออก ถัดจากที่นั่งของชายชรามีภรรยาของเขาในชุดแสดงสถานะว่าแต่งงานแล้วกำลังแยกเส้นด้ายสีขาวสะอาดตาออกจากม้วนทีละเส้น วางปลายหนึ่งลงบนโตก อีกปลายพาดบนตะกร้าที่มีขวดเหล้าหมักจากข้าว ทุกอย่างเตรียมพร้อมสำหรับ “พิธีมัดมือ”
พิธีมัดมือเป็นการเรียกขวัญจากธรรมชาติให้หวนคืนสู่ผู้คน ตามความเชื่อของชาวปกาเกอะญอที่ว่าขวัญ ไม่เพียงแต่อยู่ในตัวของเรา ทว่ายังอยู่ในธรรมชาติและสัตว์ป่าด้วยเช่นกัน ชาวปกาเกอะญอที่นี่นับถือผี (Animism) ควบคู่กับนับถือพุทธ พวกเขาเชื่อว่าผีและวิญญาณอยู่ในทุกสิ่งและทุกที่ ทั้งในป่า ไร่ ลำธาร ความเชื่อที่ยึดโยงกับธรรมชาติเหล่านี้จึงเป็นบ่อเกิดของคุณธรรมและค่านิยมในวิถีชีวิตและประเพณีให้เคารพและยำเกรงต่อธรรมชาติ
พิธีมัดมือกลางปีจัดขึ้นช่วงเดือนสิงหาคมเพื่อเรียกขวัญและขอบคุณธรรมชาติที่ให้ชีวิต พร้อมขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกป้องคุ้มครอง ครอบครัวศิริมารวมตัวกันที่บ้านของ นิเวศน์ ศิริ วัย ๖๘ ปี