Image
กาลครั้งหนึ่ง
ประวัติศาสตร์ประชาชน
ตอน 1
scoop
เรื่อง : วีระศักร จันทร์ส่งแสง
ภาพปัจจุบัน : ประเวช ตันตราภิรมย์
เมื่อมาพูดกันในยุคนี้ 
อาจฟังดูเหมือนเป็นนิทานเรื่องหนึ่ง

เรื่องราวของคนที่ทิ้งบ้านช่องไปอยู่ป่าจับอาวุธ ต่อสู้เพื่อรักษาชีวิตรอดและเพื่อเป้าหมายปลายทางที่ใฝ่ฝัน โดยมีเลือดเนื้อชีวิตของตัวเองเป็นเดิมพัน

เรื่องราวของผู้คนที่ยังมีตัวตนอยู่จริง ฉากสถานที่จริง ซึ่งเมื่อผ่านห้วงกาลมานานหลายสิบปีก็แทบไม่เหลือร่องรอยว่าครั้งหนึ่งเคยเป็นสมรภูมิ

และยิ่งกว่านั้นคือแทบไม่ปรากฏอยู่ในบทบันทึกประวัติศาสตร์ฉบับทางการ หากมีกล่าวถึงบ้างก็ในบทบาทผู้ (ก่อการ) ร้าย

ขณะผู้ถูกใส่ร้ายป้ายสียืนยันว่านั่นเป็นหนทางในการต่อสู้รูปแบบหนึ่งตามบริบทสภาพการณ์ของสังคมการเมืองในห้วงเวลานั้น

ด้วยอุดมคติ ความใฝ่ฝัน หรือภาวะบีบคั้นอย่างไรที่ทำให้คนกลุ่มหนึ่งถึงกับยอมละจากชีวิตปรกติในบ้านเมืองที่คุ้นเคยไปสู่ความยากลำบากและเสี่ยงภัยในป่าเขา

ข้อสงสัยไขไม่ได้ด้วยคำอธิบาย แต่เมื่อประวัติศาสตร์ฉบับทางการไม่เคยให้พื้นที่ ในช่วงหลังมานี้เจ้าของเรื่องราวในแต่ละเขตพื้นที่จึงเริ่มเปิดปูมเรื่องราวเล่าประวัติศาสตร์ของตนทั้งในแง่เรื่องเล่า อนุสรณ์สถาน ตลอดถึงการปักหมุดหมายไว้บนพื้นที่จริง ว่าครั้งหนึ่งบนผืนดินที่ทุกวันนี้อาจเป็นที่ท่องเที่ยว เรือกสวน วัดป่า ทุ่งนา ป่าอนุรักษ์ หมู่บ้าน ถนนหนทาง ฯลฯ บนพื้นที่เหล่านี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นถิ่น “ฐาน” ที่พวกเขาเคยเคลื่อนไหวกินอยู่สู้รบ รวมทั้งเป็นที่ฝากฝังกายไว้ชั่วนิรันดร์สำหรับมิตรสหายบางคน

เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ประชาชนที่อาจช่วยไขคำตอบให้กับคำถามที่ว่า ด้วยจิตใจ เงื่อนไข สถานการณ์สังคมแบบไหน ที่ผลักดันให้ประชาชนจนถึงเยาวชนคนหนุ่มสาวรุ่นหนึ่ง ถึงกับลุกขึ้นสู้แบบเอาชีวิตเลือดเนื้อของตัวเองเข้าแลก
แบบจำลองบ้านนาบัวและพื้นที่รายรอบ ในพิพิธภัณฑ์วันเสียงปืนแตก ช่วยให้ “สหายตั้ง” หรือ ชม แสนมิตร อธิบายเหตุการณ์เมื่อปี ๒๕๐๔ และปี ๒๕๐๘ ให้คนรุ่นหลังเข้าใจและเห็นภาพได้ง่ายขึ้น  เขาเป็นหนึ่งในตัวละครหลักของเหตุการณ์แรก ส่วนเหตุการณ์หลังเป็นเงื่อนไขผลักให้เขาต้องเข้าร่วมกองทัพปลดแอกฯ
Image