Image

เจดีย์เมืองหาง

PIC (พลิก) STORY

เรื่อง : สุเจน กรรพฤทธิ์   
ภาพ : หอจดหมายเหตุแห่งชาติ

ได้ยินกันมานานแล้วว่าพระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชนั้นสิ้นสุดในสมรภูมิ

ถ้าดูหลักฐานกรุงศรีอยุธยาที่นักประวัติ-ศาสตร์เชื่อถือที่สุดคือ พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์ เชื่อกันว่าเขียนในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (ปี ๒๒๒๓) คำตอบเรื่องนี้ก็ยังไม่ชัดเจน เพราะพงศาวดารฉบับนี้มีเพียง “เล่มต้น” ข้อความสิ้นสุดลงในห้วงที่พระนเรศวรยกทัพไปตีกรุงอังวะในปี ๒๑๔๗ โดยกองทัพ “...ถึงเมืองหลวง ตำบลทุ่งดอนแก้ว” และจนถึงปัจจุบัน (ปี ๒๕๖๘) ก็ยังไม่พบ “เล่มปลาย” ซึ่งน่าจะบันทึกครอบคลุมไปจนถึงห้วงเวลาสวรรคต

หลายสิบปีที่แล้ว ผมพบภาพเจดีย์เมืองหางในหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ซึ่งน่าจะถ่ายโดยกองกำลังทหารไทยที่เข้าออกพื้นที่ในช่วงที่ชายแดนแถบนั้นยังเต็มไปด้วยการสู้รบ

ภาพนี้หลงอยู่ในฮาร์ดดิสก์เก่า เมื่อเปิดเจออีกครั้ง ผมรู้สึกว่าเป็นหลักฐานสำคัญในแง่ของงานค้นคว้า เพราะคนจำนวนมากที่ศึกษาเรื่องพระนเรศวรน่าจะยังไม่เคยเห็นภาพเจดีย์เมืองหางมาก่อน 

เพราะ “เมืองหาง” เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ถูกสันนิษฐานว่าเป็นสถานที่สวรรคต โดย “เมืองหาง” ถูกเขียนถึงในพงศาวดารยุคหลัง และเจดีย์นี้ก็มีตำนานว่าน่าจะเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระนเรศวร (อีกแห่งที่มีการสันนิษฐานกันคือ บริเวณทุ่งดอนแก้ว ในเขต อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่) 

เล่ากันว่า “เจดีย์เมืองหาง” ตั้งอยู่ในรัฐฉาน พ้นเส้นเขตแดนไทย-พม่า บริเวณอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ไปไม่มาก คนพื้นที่เรียกว่า “สถูปกองมูขุนหอคำไต” 

มีตำนานว่าทหารไทใหญ่ของเจ้ายอดศึกที่ได้รับความช่วยเหลืออย่างลับ ๆ จากทางการไทย มักมากราบไหว้ก่อนออกรบกับทหารพม่า จนภายหลังถูกรื้อไป

เหลือเพียงภาพถ่ายเก่าให้เราได้ดูกัน