อาหารแปรรูปขั้นสูง
“อร่อยลวงติด”
Holistic
เรื่อง : ภัสน์วจี ศรีสุวรรณ์
ภาพประกอบ : zembe
เคยสังเกตไหมว่า ทุกวันนี้มีอาหารรูปร่างและรสชาติแปลกใหม่ที่เราไม่คุ้นเคยวางจำหน่ายในท้องตลาด โดยเราแทบไม่รู้เลยว่ามีอะไรเป็นส่วนผสมบ้าง อาหารบางอย่างมีชื่อเรียกอย่างหนึ่ง แต่ส่วนผสมเป็นอีกอย่าง เช่น หมึกกรุบที่ใช้เส้นบุกเป็นวัตถุดิบ แล้วปรุงแต่งรสชาติเข้มข้นเพื่อให้ถูกใจเด็กและวัยรุ่น
เหล่านี้คืออาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปขั้นสูง (ultra processed food) หรือ UPF ซึ่งผ่านกระบวนการผลิตอันซับซ้อนเติมแต่งด้วยสารที่ไม่ใช่ของใช้ในครัวทั่วไป จำพวกซีอิ๊ว น้ำปลา น้ำตาลทราย ซึ่งถือเป็นอาหารแปรรูปขั้นต้น
คริส แวน ทูลเลเคน ผู้เขียน Ultra Processed People : Why Do We All Eat Stuff That Isn’t Food… and Why Can’t We Stop ? หรือ อร่อยลวงตาย ซึ่งผู้คนทั่วโลกบอกว่าเป็นหนังสือเปลี่ยนชีวิตกล่าวว่าสิ่งเหล่านี้แทบจะไม่เรียกว่าอาหาร เพราะไม่มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างที่ควรเป็น อีกทั้งยังอันตรายยิ่งกว่าสารเสพติดในบุหรี่ เพราะนอกจากจะทำให้ติด ยังเป็นต้นตอของโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคอ้วน เบาหวาน มะเร็ง ฯลฯ
ในหนังสือ เขาเล่าประสบการณ์การทดลองกินอาหารแปรรูปขั้นสูงร้อยละ ๘๐ ของอาหารทั้งหมดต่อเนื่อง ๑ เดือน พบว่ามันส่งผลด้านลบต่อร่างกายและจิตใจ เช่น น้ำหนักเพิ่มขึ้น ๖.๕ กิโลกรัม, ร่างกายแก่ขึ้นรวดเร็ว เหนื่อยง่าย “เหมือนอายุเพิ่มขึ้น ๑๐ ปี”, มีปัญหากรดไหลย้อน ท้องผูก ริดสีดวง, ซึมเศร้า วิตกกังวล นอนไม่หลับ, หมดแรงขับทางเพศ และรู้สึกกินเท่าไรก็ไม่อิ่ม แม้จะหยุดกิน ๘ สัปดาห์แล้วก็ยังอยากกินอาหารแปรรูปขั้นสูงอยู่ โดยอาการต่าง ๆ จะหายไปเมื่อกลับมากินอาหารธรรมชาติ
เขาบอกว่าอุตสาหกรรมอาหารออกแบบให้เรา “ติด” โดยใช้สูตร “หวาน มัน เค็ม” ซึ่งกลไกสมองจะกระตุ้นให้อยากกินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้วัตถุเจือปนในอาหาร เช่น สารให้ความหวานและตัวทำละลายบางอย่างทำลายแบคทีเรียดีในลำไส้ ส่งผลต่อระบบขับถ่าย ทำให้เกิดโรคอ้วนและการอักเสบของเซลล์
อย่างไรก็ตามดูเหมือนอาหารแปรรูปขั้นสูงได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรานานแล้ว เนื่องจากผลิตง่ายได้จำนวนมาก และเก็บได้นาน ขณะเดียวกันก็ตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนส่วนใหญ่ที่ต้องการความสะดวกสบาย อร่อย และประหยัด ผู้คนจึงเลือกกินอาหารสำเร็จรูปแทนทำอาหารใหม่สดกินเองซึ่งใช้เวลาและแพงกว่า ดังนั้นอาหารแปรรูปขั้นสูงจึงวางขายอยู่ในตลาดเต็มไปหมด
ไม่เว้นแม้แต่อาหารเพื่อสุขภาพ คริสบอกว่าโปรตีนแท่งหรือโปรตีนบาร์ที่ผลิตโดยบริษัทชั้นนำ ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักออกกำลังกาย ส่วนใหญ่เป็นอาหารแปรรูปขั้นสูง เพราะมาจากโปรตีนสกัดที่ผ่านกระบวนการทางเคมีอันซับซ้อน และมีวัตถุเจือปนจำนวนมาก เช่น สารให้ความหวาน สารแต่งกลิ่น สารยึดเกาะ สารกันบูด สารเพิ่มความนุ่ม เพื่อให้รสชาติ สี กลิ่น เนื้อสัมผัสที่ดี และเก็บได้นาน
แน่นอนว่าในท้องตลาดมีอาหารแปรรูปขั้นสูงที่ราคาถูกอยู่ได้นานหลายเดือนหลายปีเต็มไปหมด แต่ใช่ว่าเราจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทางเลือกแรกคือควรกินอาหารปรุงใหม่สด หรืออาหารที่ยังมีสภาพดั้งเดิมของวัตถุดิบชนิดนั้นให้เห็น เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช ซึ่งเรียกว่า “อาหารที่แท้จริง” ที่มีอยู่มากมาย เช่น ร้านอาหารหรือร้านข้าวแกงต่าง ๆ บางคนบอกให้เลือกกินอาหารที่ “ปู่ย่าตายายหรือพ่อแม่เรารู้จัก”
ทางเลือกต่อมาคือรับรู้ข้อมูลผ่าน “ฉลากอาหาร” ที่ให้รายละเอียดส่วนผสมต่าง ๆ หนังสือเล่มนี้จึงเรียกร้องให้ภาคอุตสาหกรรมอาหารและภาครัฐกำหนดนโยบายที่ให้ความรู้ประชาชน และให้สิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลในอาหารผ่านฉลากอาหารที่สมบูรณ์
“รู้จัก” อาหารแปรรูปขั้นสูง
อ่านฉลากอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารที่มีวัตถุเจือปนอาหาร เช่น สารกันบูด สารแต่งกลิ่น/สี/รส/เพิ่มความนุ่ม ฯลฯ
• สังเกตคำที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษร E เช่น E621 คือผงชูรส, E150 คือกลุ่มสีวานิลลาและคาราเมลสังเคราะห์
• สังเกตคำที่ลงท้ายด้วย “-ate”, “-ite” หรือ “-ose” (เช่น sorbate, nitrite, soy protein isolate, rice protein concentrate, sucralose, polydextrose)
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีคำเหล่านี้บนฉลาก
• พร้อมทาน/Instant/อาหารกึ่งสำเร็จรูป
• ไขมันต่ำ/ไม่มีน้ำตาล (มักมีสารทดแทนที่เป็น UPF)
• ปราศจากไขมันทรานส์ (แต่ยังใช้ไขมันพืชแปรรูปอื่น ๆ อยู่)
หลีกเลี่ยงของว่าง/ของขบเคี้ยวที่ทำเองได้ยาก เช่น ขนมขบเคี้ยวอัดแท่ง, ไส้กรอก, นักเก็ต, ขนมเค้กหรือเบเกอรีที่เก็บได้นานผิดปรกติ เช่น ขนมปังสดที่ทำด้วยแป้ง น้ำ เกลือ ยีสต์ ปรกติเก็บได้ ๓-๗ วัน แต่ขนมปังในร้านสะดวกซื้อระบุวันหมดอายุ ๓-๖ เดือน โดยงานวิจัยของสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า ของว่างและขนมปังเหล่านี้มีพลังงานสูง ไฟเบอร์ต่ำ และมีสารกันเสียในระดับใกล้ขอบเขตความปลอดภัย