โปสต์การ์ด
“ผู้นำสหรัฐฯ”
Souvenir & History
เรื่องและภาพ : สุเจน กรรพฤทธิ์
ภาพประกอบ : ไพลิน จิตรสวัสดิ์
กลาง ค.ศ. ๒๐๒๔ ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสกลับไปกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. อีกครั้ง หลังเคยเยือนเมืองหลวงของสหรัฐอเมริกาครั้งแรกเมื่อ ๕ ปีที่แล้ว
ในห้วงที่ผมไป ดี.ซี. (ชื่อเรียกเมืองหลวงแบบย่อของคนอเมริกัน) อยู่ในบรรยากาศก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีคนที่ ๔๗ เป็นช่วงปลายเทอมของประธานาธิบดีโจ ไบเดน (Joe Biden) ซึ่งประกาศไม่ลงแข่งขันในสมัยที่ ๒ ทำให้พรรคต้นสังกัดคือเดโมแครต ตัดสินใจเปลี่ยนม้ากลางศึก ส่ง กมลา แฮร์ริส (Kamala Harris) รองประธานาธิบดีหญิงลงสมัครแทน โดยพบกับคู่ปรับเก่าที่กระแสนิยมกลับมาแรงอย่างน่ากลัวคือ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ที่แพ้ไบเดนในการเลือกตั้งครั้งก่อน (ค.ศ. ๒๐๒๐)
นอกประเทศ อเมริกาในปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไขเต็มไปหมด โดยเฉพาะความท้าทายด้านภูมิรัฐศาสตร์ การเติบโตของสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ขึ้นมาแข่งขันทั้งด้านการค้าและอำนาจ สงครามในยูเครนกับรัสเซีย สงครามตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มกองกำลังปาเลสไตน์และอิหร่าน ฯลฯ
ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ นอกจากสำคัญกับคนอเมริกัน มันยังส่งผลกระทบกับโลกทั้งใบ
แต่ผมกลับพบอีกด้านของเหรียญ มาถึง ดี.ซี. รอบนี้ ผมพบว่าคนที่นี่กำลังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจ ข้าวของราคาแพง รถไฟใต้ดินที่แม้จะมีเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่ต่าง ๆ มากขึ้น แต่ก็ทรุดโทรมและขาดการบำรุงรักษาอย่างเห็นได้ชัด เพื่อนคนไทยที่อาศัยอยู่ที่นี่เตือนว่า คนเอเชีย (โดยเฉพาะผู้หญิง) ต้องระวังตัวเวลาใช้บริการ เพราะอาจเจอการเหยียดเชื้อชาติหรือคุกคามทางเพศ หลายเขตเต็มไปด้วยปัญหาสังคม สกปรกและเสื่อมโทรม กลิ่นกัญชาคละคลุ้งทั้งในตู้รถไฟและตามชุมชนต่าง ๆ กระทั่งย่านคนจีน (China Town) หรือย่านชอปปิงหรู ก็มีคนเมากัญชาท่าทางแปลกประหลาดเดินไปมาตามสี่แยกให้นักท่องเที่ยวหวาดเสียวเล่น
มีโอกาสคุยกับอเมริกันหลากเชื้อชาติ ทั้งแอฟริกันอเมริกัน เอเชียนอเมริกัน เม็กซิกันอเมริกัน ฯลฯ เรื่องหนึ่งที่ทุกคนกล่าวตรงกันคือ ๔ ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจย่ำแย่และทำมาหากินยากขึ้นแทบทุกรัฐในอเมริกา
ผมเดาได้ทันทีว่าประธานาธิบดีไบเดนและพรรคเดโมแครตน่าจะตกที่นั่งลำบากในศึกเลือกตั้งต้นเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. ๒๐๒๔ แม้รณรงค์ว่าจะปกป้องประชาธิปไตย สิทธิสตรี ฯลฯ ก็ไม่น่าเกิดผล เพราะสำหรับชาวอเมริกันทั่วไป เรื่องปากท้องเป็นเรื่องใหญ่ แถมพวกเขายังมองยุคทรัมป์ว่า “ทำมาหากินง่ายกว่านี้”
ดังนั้นทรัมป์ทำอะไรมา อื้อฉาวแค่ไหน พวกเขาไม่สนใจมากนัก
ตอนรอขึ้นเครื่องกลับบ้านที่ท่าอากาศยานนานาชาติดัลเลส (Dulles International Airport) ผมพบโปสต์การ์ดรูปประธานาธิบดีไบเดนและรองฯ แฮร์ริส (ธรรมเนียมอเมริกัน ร้านขายของที่ระลึกมักนำภาพผู้นำทางการเมืองมาทำเป็นของฝาก) เลยซื้อติดมือมาใบละ ๑ ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ ๓๑ บาท) เพื่อรำลึกว่าได้มาเยือนอเมริกาช่วงปลายเทอมของรัฐบาลไบเดน
ต่อมาผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาว่าทรัมป์เป็นฝ่ายชนะแฮร์ริสอย่างขาดลอย
ได้แต่คิดในใจ ทำไมลางสังหรณ์ไม่แม่นตอนซื้อลอตเตอรี่แบบนี้บ้าง (ฮา)