Image

“คุณพ่อ (พระยาพหลฯ)
เป็นคนใจกว้าง”
พ.ต. พุทธินาถ พหลพลพยุหเสนา
บุตรคนที่ ๔ ของพระยาพหลฯ

๓ มุมมอง กรณีพระยาพหลฯ

เรื่อง : สุเจน กรรพฤทธิ์
ภาพ : ประเวช ตันตราภิรมย์

“ผมเกิดปี ๒๔๘๒ ใช้ชีวิตอยู่ในวังปารุสกวันที่ตอนนั้นเป็นทำเนียบรัฐบาล ยังเด็กมากจึงจำความได้น้อย แต่สมัยที่คุณแม่ (ท่านผู้หญิงบุญหลง) ยังมีชีวิต ท่านเล่าเรื่องคุณพ่อให้ฟังบ่อย เช่น สมัยพ่อเป็นนายกฯ มีนักข่าวต่างชาติขอสัมภาษณ์ ท่านยกแก้วน้ำขึ้น ฝรั่งพยักหน้า คุณแม่บอกว่าที่พ่อทำแบบนั้นหมายความว่า นายกฯ คือผู้บริหารสูงสุดของประเทศ พูดไปเรื่อยไม่ได้ ถ้าพลาดทั้งประเทศเสียหาย ถ้าแก้วมันสะเทือน น้ำในแก้วก็จะกระฉอกออกมา ท่านต้องประคองแก้วน้ำเอาไว้

“คุณพ่อเป็นคนใจกว้าง ผมเคยบอกคุณนิตย์ พิบูลสงคราม (บุตรจอมพล ป.) ว่า จอมพล ป. เป็นคนซาดิสม์ คุณนิตย์ถามผมว่าทำไมไปว่าคุณพ่อเขาแบบนั้น ผมก็เล่าว่ามีหนหนึ่ง จอมพล ป. ผ่านกฎหมายเวนคืนที่ดินแถบบางเขนและโดนที่ดินคุณพ่อไปด้วย ที่ดินตรงนั้นกลายเป็นโรงเรียนไทยนิยมสงเคราะห์ วันหนึ่งจอมพล ป. มาเรียนถามว่า ใต้เท้าโกรธผมหรือไม่ที่ทำอย่างนั้น คุณพ่อท่านก็ตอบว่า คุณหลวงพิบูลฯ ลืมแล้วหรือ เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ที่เราแลกชีวิต ขอพระราชทานรัฐธรรมนูญมาด้วยกัน เราประกาศหลักหกประการของคณะราษฎร หนึ่งในนั้นคือต้องจัดการศึกษาให้แก่ราษฎรอย่างทั่วถึง ให้การศึกษาอย่างเต็มที่กับราษฎร เมื่อคุณหลวงเห็นว่าที่ดินของผมมีประโยชน์ เวนคืนแล้วสร้างโรงเรียน ผมก็ดีใจมากที่สามารถทำประโยชน์ได้ พอคุณพ่อพูดแบบนี้จอมพล ป. ท่านก็หน้าหงาย เพราะทำกับคนอื่นเขาโกรธ แต่คุณพ่อท่านไม่โกรธ

“เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นกับคุณควง อภัยวงศ์ เหมือนกัน ในสภาโจมตีคุณพ่อเสียยับ พอออกมานอกสภา คุณพ่อเรียกไอ้ควงมานี่ มาคุยกันหน่อย ปรากฏนายควงวิ่งมากราบรัว ๆ บอกว่ากระผมต้องขออภัยใต้เท้า  คุณควงแกก็แบบนี้ สนุกเกินเหตุในการพูด พอเห็นพ่อโกรธก็มาขอโทษ พ่อก็ไม่ถือโทษอะไร

“เรื่องศูนย์การทหารปืนใหญ่ ลพบุรี ย้ายอนุสาวรีย์คุณพ่อเปลี่ยนชื่อค่าย ครั้งหลังสุดที่ผมได้ไปดูพิพิธภัณฑ์พระยาพหลฯ พบว่าเขาวางของระเกะระกะ ฝุ่นจับ ไม่ได้สนใจดูแลจริงจัง ผมได้แต่คิดว่า เมื่อคิดไม่ได้ก็ต้องปล่อย ไม่มีใครอยู่ยั้งยืนยง ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่กว่าความตาย”