Image

แร็กดอลล์Ragdoll

Top 10 Cats
10 อันดับ “เจ้านาย”
สายพันธุ์ยอดฮิต

แมวววว...

รวบรวม : สุเจน กรรพฤทธิ์
ภาพ : 123rf.com

นอกเหนือจากไทยที่มีแมวพันธุ์ประจำถิ่น ในระดับโลกหลายประเทศก็มีแมวสายพันธุ์เฉพาะถิ่นของตัวเอง ส่วนหนึ่งได้รับการอนุรักษ์ด้วยการคัดเลือกสายพันธุ์ (breed)  อีกส่วนถูกผสมกับสายพันธุ์อื่นเพื่อพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นใหม่

หากแมวปรับตัวเข้าหาคน คนเอง
ก็ย่อมจัดการ “ปรับสายพันธุ์แมว” ไปด้วย

ค.ศ. ๒๐๒๒ สมาคมแมวแห่งสหรัฐอเมริกา (The Cat Fanciers’
Association - CFA) ได้จัดอันดับสายพันธุ์แมวยอดฮิตนานาชาติไว้ทั้งหมด ๑๐ สายพันธุ์

บางพันธุ์คนไทยก็คุ้นเคย แต่บางพันธุ์อาจไม่เคยเห็นมาก่อน

แร็กดอลล์
Ragdoll

พัฒนาสายพันธุ์ขึ้นใน ค.ศ. ๑๙๖๐ ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา  ลักษณะเด่นคือตาสีฟ้า ขนยาว หน้าเหลี่ยม ตัวโต เวลาโดนอุ้มมันจะตัวอ่อนเหมือนกับตุ๊กตาผ้าจนเป็นที่มาของชื่อ  บรรพบุรุษของแมวพันธุ์นี้ชื่อ “โจเซฟีน” เกิดจากพ่อแม่พันธุ์เปอร์เซียกับแองโกราเบอร์มัน  แมวพันธุ์นี้มีหลายสี สีขนจะไล่จากโทนอ่อนไปหาเข้ม ชอบเข้าสังคม เข้ากับสุนัขได้ดี และต้องการความเอาใจใส่จากเจ้าของ

2 เมนคูน
Maine Coon

ที่มาของแมวพันธุ์นี้มีตำนานถึงสามสำนวน  สำนวนแรกบอกว่าเกิดจากการผสมระหว่างบ็อบแคต (Bobcat) กับแร็กคูน สำนวนที่ ๒ บอกสืบสายพันธุ์จาก Norwegian Forest Cat ที่มากับเรือชาวไวกิงถึงทวีปอเมริกา  สำนวนที่ ๓ เป็นสำนวนพิสดาร คือหลังการปฏิวัติฝรั่งเศส พระนางมารี-อ็องตัวแน็ต (Marie-Antoinette) เตรียมลี้ภัย นำของมีค่าใส่ลงเรือ หนึ่งในนั้นคือแมวพันธุ์ Turkish Angora และ Siberian Forest Cat แม้พระนางลี้ภัยไม่สำเร็จและถูกกิโยตีนบั่นพระศอ แต่แมวสองตัวมาถึงรัฐเมนของสหรัฐอเมริกาอย่างปลอดภัย และผสมกับแมวขนสั้นในท้องถิ่นจนเป็นเมนคูนที่มีรูปร่างกำยำ หัวทรงเหลี่ยม ใบหูใหญ่ มีสีขนมากกว่า ๓๐ โทนสี ตาอาจมีหลายสีหลายแบบ เพศผู้ขนหนากว่าเพศเมีย

Image

3 เดวอนเร็กซ์
Devon Rex

มีโครงหน้าโดดเด่น ตาโต ขนเป็นลอนปรากฏตัวครั้งแรกในคริสต์ทศวรรษ ๑๙๕๐ เมื่อเบริล ค็อกซ์ (Beryl Cox) หญิงชาวอังกฤษซึ่งพำนักที่เมืองเดวอน (Devon) ได้แมวมาตัวหนึ่งซึ่งเธอเชื่อว่าน่าจะเป็นสายพันธุ์ Cornish Rex เธอตั้งชื่อแมวว่าเคอร์ลี (Kirlee) และหาคู่ที่เป็นสายพันธุ์นี้ให้ แต่ลูกแมวที่ได้กลับมีขนลอนต่างจาก Cornish Rex เธอจึงรู้ทันทีว่าเคอร์ลีเป็นพันธุ์ผสมและเริ่มรักษาสายพันธุ์นี้ไว้  เดวอนเร็กซ์ถือเป็นแมวที่ชอบอยู่กับคนมากที่สุดพันธุ์หนึ่ง

4 เอ็กโซติก
Exotic

มีประวัติพัฒนาสายพันธุ์ตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ ๑๙๕๐ ถือเป็นแมวเปอร์เซียเวอร์ชัน “ขนสั้น” โดยนักพัฒนาสายพันธุ์แมวอเมริกันชอร์ตแฮร์ (American Shorthair) นำพันธุ์นี้มาผสมกัน ได้รับการยอมรับช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ ๑๙๘๐ แต่ยีน (gene) ของแมวเปอร์เซียก็ยังปรากฏอยู่โดยมีโอกาสราวหนึ่งในสี่ที่ลูกจะมีขนยาว แต่จะเรียกว่า Exotic Shorthair แทนเปอร์เซีย

Image

5 เปอร์เซีย
Persian

แมวหน้ากลม จมูกสั้น ขนยาว ซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วโลก ปรากฏตัวตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ ๑๙ เชื่อว่านำมาจากเปอร์เซีย (ปัจจุบันคือบริเวณประเทศอัฟกานิสถานและอิหร่าน) เข้าสู่อิตาลีและได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ทำให้มีลักษณะจมูกสั้น หน้าตาแตกต่างกันไปในปัจจุบัน  แมวเปอร์เซียมักมีภาพลักษณ์เป็นแมวหรูหรา อยู่กับผู้มีอันจะกิน

Image

6 บริติชชอร์ตแฮร์
British Shorthair

มีแผงอกกว้าง ลำตัวใหญ่ หน้ากลม คางกว้าง ตาโตใหญ่ ขนสั้น มีหลายสีสันนิษฐานว่าพัฒนามาจากแมวป่าบนเกาะอังกฤษ จากนั้นได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ในคริสต์ศตวรรษที่ ๑๙ โดยเฉพาะลักษณะขนสีเทาน้ำเงินที่เรียกว่า British Blue ซึ่งต้องให้เครดิตแก่ แฮร์ริสัน เวียร์ (Harrison Weir) ศิลปินชาวอังกฤษ  ในคริสต์ศตวรรษที่ ๒๐ ความนิยมเลี้ยงบริติชชอร์ตแฮร์ลดลงเนื่องจากกระแสแมวเปอร์เซีย จนทศวรรษ ๑๙๗๐ จึงมีการกำหนดและรับรองมาตรฐานของแมวสายพันธุ์นี้

7 อะบิสซิเนียน
Abyssinian

อะบิสซิเนียนเป็นแมวขนสั้น ขนจะมีสองสีบนเส้นเดียวกัน มีความสง่างามสมส่วน เป็นแมวที่ตื่นตัวและซื่อสัตย์ต่อเจ้าของ สันนิษฐานว่าสืบสายพันธุ์มาจากแมวอียิปต์โบราณ (Myeu) ด้วยลักษณะคล้ายภาพบนผนังถ้ำในอียิปต์ บันทึกสมัยหลังปรากฏว่านายทหารที่ไปรบในสงคราม “อะบิสซิเนีย” เมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. ๑๘๘๖ นำกลับมาจากเอธิโอเปีย แต่ก็มีข้อสันนิษฐานอื่นอีกจำนวนหนึ่ง

Image

8 สกอตติชโฟลด์
Scottish Fold

บรรพบุรุษคือแมว white barn cat ชื่อ “ซูซี (Susie)” ในเมืองคูพาร์อังกัส (Coupar Angus) สกอตแลนด์  ซูซีและลูกสองตัวมีลักษณะเด่นคือหูพับครึ่ง  วิลเลียม รอสส์ (William Ross) นำลูกของซูซีไปพัฒนาสายพันธุ์จนยีนหูพับกลายเป็นยีนเด่น และเพาะพันธุ์อย่างจริงจังในอังกฤษช่วง ค.ศ. ๑๙๖๖ ก่อนจะหยุดชะงักเพราะความกังวลเรื่องโรคและอาการหูหนวกจากพันธุกรรม  ใน ค.ศ. ๑๙๗๐ สกอตติชโฟลด์เริ่มเป็นที่รู้จักในอเมริกา จึงพัฒนาสายพันธุ์ต่อมาโดยนำมาผสมกับอเมริกันชอร์ตแฮร์

Image

Image

9 สฟิงซ์
Sphynx

เกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์ในแคนาดาเมื่อ ค.ศ. ๑๙๖๖ เริ่มจาก “พรูน (Prune)” แมวไร้ขนที่ถือกำเนิดจากแม่แมวขนสั้นและได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ จึงถูกเรียกอีกชื่อว่า Canadian Sphynx มันชอบมีปฏิสัมพันธ์กับคน มีพลังงานล้นเหลือถือเป็นสายพันธุ์แมวที่นิสัยคล้ายสุนัขมากที่สุดสายพันธุ์หนึ่ง

10 ไซบีเรียน
Siberian

แมวพื้นถิ่นของรัสเซีย ชื่อเดิมคือ Siberian Forest Cat มีขนหนาเงางามถึงสามชั้น มีหลายสีขนาดตัวใหญ่และเป็นมิตรกับคน  สันนิษฐานว่ามีขนหนาเนื่องจากอากาศอันโหดร้ายในไซบีเรีย ช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ ๑๙ เริ่มเป็นที่รู้จักในยุโรปจากหนังสือภาษาเยอรมันชุด Brehms Tierleben ก่อนจะพัฒนามาตรฐานสายพันธุ์จริงจังช่วงปลายทศวรรษ ๑๙๘๐  หลังยุคสงครามเย็นจบลงในทศวรรษ ๑๙๙๐ จึงได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากสมาคมแมวทั่วโลก และนิยมมากเมื่อเข้าสู่ทศวรรษ ๒๐๑๐