ตื่นเช้าเปลี่ยนโลก
Holistic
เรื่อง : ภัสน์วจี ศรีสุวรรณ์
ภาพประกอบ : zembe
การสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ มักเกิดจากการปรับเปลี่ยนนิสัยเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ทำอย่างสม่ำเสมอ หากคุณคิดเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อรับสิ่งใหม่ ๆ ในปีใหม่นี้ โดยเริ่มจากสิ่งใกล้ตัวที่ทำได้ทันที ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาตนเองทั่วโลกแนะนำให้เริ่มที่การตื่นนอนตอนเช้าตรู่
โรบิน ชาร์มา โค้ชชีวิตชื่อดัง ผู้เขียนหนังสือ The 5 AM Club หรือ “คลับของคนตื่นตี ๕” บอกว่า ในยามเช้าพวกเราล้วนมีฟืนกองใหญ่ที่คอยให้พลังงานอยู่ เหลือเพียง “ตัวจุดไฟ” ซึ่งก็คือการตื่นเช้านั่นเอง
ทั้งนี้เพราะยามเช้าตรู่เป็นช่วงเวลาเงียบสงบ ฮอร์โมนความเครียดยังไม่มีหรือมีไม่มาก ขณะคลื่นความถี่ของสมองอยู่ในช่วงคลื่นแอลฟาและทีตา ซึ่งสามารถจดจ่อและลื่นไหลได้ดี เรียกอีกอย่างว่า “สมองโล่ง” เหมาะแก่การทบทวนใคร่ครวญเรื่องราว และการทำงานใช้ความคิดวิเคราะห์ต่าง ๆ
งานวิจัยส่วนใหญ่พบว่าช่วงระหว่างตี ๕ ถึง ๘ โมงเช้าจะมีพลังงานและแรงบันดาลใจสูงสุด โฟกัสสิ่งที่ทำได้ดี หากเราใช้ช่วงเวลาดังกล่าวเต็มที่เพื่อทำงานสำคัญ อาจได้ “เนื้องาน” ที่มีประสิทธิภาพ โดยแทบไม่ต้องใช้เวลาที่เหลืออยู่ทั้งวันเพื่องานสำคัญเหล่านี้เลย
ขณะหนังสือ Miracle Morning ทุกสิ่งในชีวิตจะดีขึ้นเมื่อตื่นเช้า บอกว่ากิจวัตรยามเช้าจะสามารถหล่อหลอมกิจวัตรทั้งวันได้ ถ้าทำ ๑ ชั่วโมงแรกให้มีประสิทธิภาพ
โดยเมื่อตื่นเช้าแล้วทำสิ่งที่มีความหมายหรือสิ่งสำคัญก่อน ความสำเร็จบางอย่างตามมา และหากเลือกทำสิ่งไม่ชอบที่สุดหรือยากที่สุดในวันนั้น งานที่เหลือทั้งวันจะง่ายขึ้น ทำให้เห็นว่าเราเป็นนายตัวเองได้
ถ้าความจำเป็นบังคับ เช่น ไปทำงานหรือไปเที่ยว ใคร ๆ ก็ตื่นเช้าได้…สักวันสองวัน…แต่การตื่นเช้าที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงชีวิตต้องทำเป็นกิจวัตรหรือนิสัย บางคนเรียก “วินัย” ซึ่งต้องอาศัยความสม่ำเสมอที่ต่อเนื่องระยะหนึ่ง
คำถามคือต้องทำนานแค่ไหน…เราอาจเคยได้ยินคำพูดจากงานวิจัยเกี่ยวกับระยะเวลากับการสร้างนิสัยที่บอกว่า “๒๒ วันเปลี่ยนนิสัย” จนเป็นที่มาของหลักสูตรการพัฒนาตนเองต่าง ๆ ทั้งเรื่องการกิน การนอน การออกกำลังกาย
โรบิน ชาร์มา แห่ง The 5 AM Club บอกว่า ต้องฝึกตื่นเช้าและทำกิจวัตรที่ดีให้ได้ ๖๖ วัน หรือประมาณ ๒ เดือน โดย ๒๒ วันแรกเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากนิสัยเดิม ๒๒ วันต่อมาเป็นช่วงติดตั้งนิสัยใหม่ซึ่งช่วงนี้จะล้มเลิกหรือยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะหากยอมแพ้เท่ากับต้องกลับไปเริ่มใหม่ และถ้าทำให้ครบในช่วง ๒๒ วันสุดท้าย จะกลายเป็นกิจวัตร วินัย หรือนิสัยที่จะติดตัว ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงชีวิตหรือโชคชะตาที่เราเป็นผู้สร้างขึ้น
จะเห็นว่าการตื่นเช้าไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินกว่าจะทำไม่ได้ปีใหม่นี้ลองท้าทายตัวเองสักครั้ง ซึ่งมิเพียงทำให้เรามีเวลาเพิ่มมากขึ้น แต่การตื่นเช้าที่มาพร้อมความมุ่งมั่นตั้งใจจะทำให้เราเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ดังคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตส่วนใหญ่ในโลกนี้เป็นกัน