มงกุฎหนึ่งเดียวในโลก
Hidden (in) Museum
เรื่อง : สุชาดา ลิมป์
ภาพ : บันสิทธิ์ บุณยะรัตเวช
ภาพมงกุฎ : สยามเจมส์ เฮอริเทจ
นับแต่มนุษย์รู้จักนำมวลของแข็งที่ประกอบด้วยแร่ตามธรรมชาติมาใช้
หินสีนานาที่เจียระไนจนงามก็กลายเป็นพลอยมีค่า ยิ่งหายากยิ่งแพง
ไทยไม่เพียงมั่งคั่งทรัพยากร ยังมีช่างชั้นครู-ผู้รู้ศาสตร์รังสรรค์พลอยสีจนเป็นอัญมณีวิจิตร ก่อนอารยธรรมประณีตศิลป์ที่สั่งสมจะขาดการสานต่อ สยามเจมส์ เฮอริเทจ บริษัทผู้นำธุรกิจด้านจิวเวลรีและเครื่องประดับอัญมณีไทย จึงแบ่งพื้นที่อาคารเป็นศูนย์เรียนรู้จัดแสดงนิทรรศการด้วยเทคนิคสื่อผสม
ผ่านประตูจะพบ “ประติมากรรมช้างทองคําสองพ่อลูก” ในท่าเยื้องย่างกลางสายน้ำเจ้าพระยา ตัวช้างหุ้มทองคํา ๙๙.๙๙ เปอร์เซ็นต์ ฝังนพรัตน์และทรงเครื่องสมัยอยุธยาตอนต้น แล้วนำสู่โรงภาพยนตร์ “สยามเจมส์ สเฟียร์” ตระการตา ประวัติศาสตร์อัญมณีจากทั่วโลก ก่อนส่งต่อห้อง “มณีนิรันดร์” เล่าความงามเหนือกาลเวลาจากยุคลูกปัดที่มนุษย์รู้จักนําวัสดุธรรมชาติมาทำเครื่องประดับ ยุคสำริดหัดหลอมโลหะเป็นครั้งแรก ยุคทองคําซึ่งเมืองไทยโดดเด่นจนได้สมญาสุวรรณภูมิ ยุครัตนชาติที่เริ่มนำพลอยสีมาขัดจนเกิดเหลี่ยมมุม กระทั่งสู่ยุควิจิตรบรรจงกำเนิดเทคโนโลยีสร้างประกายเจิดจรัสแก่อัญมณีในแบบไม่เคยเป็น
ตอกย้ำความละเมียดในห้อง “มณีประกาย” เผยศาสตร์ศิลป์พิถีพิถันที่ช่างไทยเนรมิตให้อัญมณีได้อวดประกายหลากรูป ทั้งเหลี่ยมเกสร เหลี่ยมมรกต เหลี่ยมกุหลาบ และหลังเบี้ย รวมถึงเจียระไนตามรูปเดิม ทั้งทรงกลม ทรงหัวใจ ทรงเม็ดแตง ทรงผืนผ้าตัดมุม และทรงหยดน้ำ แล้วนำสู่ห้อง “มณีมงคล” เล่าศรัทธาคนไทยว่า อัญมณีนพรัตน์ เก้าชนิด (ทับทิม มุกดา เพทาย มรกต บุษราคัม เพชร ไพลิน โกเมน และไพฑูรย์) เปรียบดั่งดาวนพเคราะห์ เป็นของสูงค่าทางใจเป็นมงคลแก่ผู้ครอบครอง ยังมีห้อง “มณีวิทยา” โอกาสพิเศษจะมีช่างผู้ชำนาญการออกแบบ เจียระไน ขึ้นรูป และ ฝังอัญมณีลงตัวเรือน มาสาธิตกระบวนวิธีผ่านห้องกระจกให้ตื่นตาในความประดิดประดอยเพื่อเปลี่ยนหินสีสู่งานศิลป์ชั้นสูงอันมีเอกลักษณ์
บรรดาห้องจัดแสดง “ปัทมราณี” คือห้องมืดชวนตะลึง “มงกุฎหนึ่งเดียวในโลก”
ที่สยามเจมส์ เฮอริเทจรังสรรค์ “เดอะเทียร่า ออฟ สยามเจมส์” ให้เลอค่าด้วย “ทับทิมสยาม” ขนาด ๒๑.๐๙ กะรัต เหตุจากช่วงก่อตั้งพิพิธภัณฑ์มีผู้มาเสนอขาย ซึ่งเป็นอัญมณีที่มีเฉพาะพื้นที่จังหวัดจันทบุรี และเวลานั้นไม่มีการขุดพบในไทยแล้ว ทำให้ผู้บริหารตัดสินใจซื้อเพื่อเก็บรักษาสมบัติแห่งแผ่นดินเม็ดนี้
ทับทิมสยามเด่นด้วยสีแดงอมม่วงเนื้อละเอียดและสะอาดใสคล้ายแก้วที่ไร้รอยขูดขีด (ต่างจากทับทิมประเทศอื่นที่มีสีส้มหรือสีชมพูหวาน) และมีผลึกภายในตรงกลางที่เรียก “ดาวเสาร์” (Saturn) รวมถึงเนื้อในก็มี “ลายนิ้วมือ” (finger-print) ที่ทับทิมอื่นไม่มี (ยิ่งเป็นทับทิมประดิษฐ์ภายในจะเป็นฟองอากาศ) เมื่อนำมาประกอบขึ้นตัวเรือนจะมีความแข็งแกร่งระดับ ๙ (สูงกว่าทับทิมประเทศอื่นที่ถ้าเผาด้วยความร้อนระดับเดียวกันอาจแตก) ด้วยคุณสมบัติยิ่งใหญ่หาใดเทียบยาก ทับทิมสยามจึงได้การยอมรับเป็นทับทิมอันดับ ๑ ของโลก มีราคาสูงกว่าทับทิมจากประเทศอื่น
ไม่เพียงนำเจ้าแห่งพลอยประดับขึ้นมงกุฎ-สัญลักษณ์แห่งความงามและพลังอำนาจผู้สูงศักดิ์ ยังปรากฏบริวารทับทิมแดงอีก ๒๔ เม็ด ล้อมเพชรแท้ ๑,๙๔๖ เม็ด สะท้อนความละเมียดในการคัดสรรอัญมณีคุณภาพเยี่ยม เจียระไนประณีตทุกเหลี่ยมมุม และออกแบบตัวเรือนโดยส่งเสริมให้อัญมณีเจิดจรัสอย่างเฉพาะตัวที่สุด เพื่อให้ผู้ครอบครองภาคภูมิใจกับความเป็นเอก
ซุกอยู่มุมไหนของพิพิธภัณฑ์... ต้องมาดู
"อัญมณีในพิพิธภัณฑ์นี้ได้มาจากทั่วโลก บ้างประมูลมาราคาสูง จะมีเจ้าหน้าที่นำชมเพื่อเล่าเกร็ดต่าง ๆ ผมว่าเรื่องอัญมณีมีความลึกซึ้งน่าสนใจ อย่างราคา ความจริงมีพลอยที่แพงกว่าเพชรได้ก็คือมรกตกับทับทิม หรือหยกที่มองว่าสีเขียวมีราคาแพงสุด แต่ที่เมืองจีนสีขาว ม่วงคล้ำ ดำ ก็แพงได้ถ้าเนื้อใส พูดกันว่าประติมากรรมของหยกหากได้พบช่างเจียระไนที่ประสานลงตัวกับเนื้อหยก ราคาของประติมากรรมอันวิจิตรจะแพงกว่าเนื้อของหยกเองอีก ผมจึงมักแนะนำลูกค้าว่าอัญมณีที่มีคุณค่าไม่จำเป็นต้องสวยล้ำหรือแพงเสมอไป อะไรที่เรารู้สึกชอบจะมีคุณค่าเปล่งประกายในตัวเอง"
เศรษฐา พัฒนแก้ว
ที่ปรึกษาอาวุโสด้านผลิตภัณฑ์ และปฏิบัติการ สยามเจมส์ เฮอริเทจ
สยามเจมส์ เฮอริเทจ
๒๓๔ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงนวลจันทร์
เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ ๑๐๒๓๐
ค่าเข้าชม คนไทย ๒๐๐ บาท
เด็ก (ส่วนสูง ๙๐-๑๓๕ เซนติเมตร) ๑๐๐ บาท
ชาวต่างชาติ ๓๐๐ บาท
เด็ก (ส่วนสูง ๙๐-๑๓๕ เซนติเมตร) ๒๐๐ บาท
เปิดทุกวัน เวลา ๑๒.๐๐-๑๗.๐๐ น.
โทร. ๐-๒๗๖๖-๙๕๐๐, ๐๘-๕๔๘๘-๘๒๑๒
และ ๐๙-๐๑๓๗-๔๕๖๔