เรื่องและภาพ : กฤช เหลือลมัย
ช่วงที่โควิด-๑๙ ยังระบาดอยู่อย่างต่อเนื่องนี้ หากใครสังเกตตามริมถนนย่านชานเมืองใหญ่ จะเห็นรถยนต์จอดเปิดท้ายขายข้าวสาร ผลไม้ ผัก เนื้อสัตว์ และของทะเลแช่เย็นอยู่ทั่วไป ผู้คนต้องดิ้นรนเพื่ออยู่รอดครับ ผมเห็นรถหลายคันขาย "กระชาย" สนนราคาราวกิโลกรัมละ ๑๒๐ บาท ที่เป็นอย่างนี้ ก็มีเหตุมาจากกระแสตื่นตัวเรื่องกระชายป้องกันรักษาโควิด-๑๙ ในช่วงที่ผ่านมา
สรุปเอาเท่าที่ผมรู้ ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหิดลพบว่า สารสกัดกระชาย "ในหลอดทดลอง" สามารถป้องกันไม่ให้ไวรัสแทรกตัวเข้าในเซลล์ได้ ยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส ทั้งยังลดอาการปอดอักเสบในหนูทดลองได้มากด้วย นอกจากฤทธิ์เสริมภูมิคุ้มกันตามสรรพคุณสมุนไพรทั่วไปอยู่แล้ว
ระหว่างรอผลวิจัยขั้นสุดท้าย เรามาเตรียมเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย โดยทำกับข้าวที่เข้ากระชายหนักๆ กินให้บ่อยขึ้นดีกว่าครับ
นอกจากน้ำยาขนมจีน แกงเลียง แกงบอน แกงป่า ผัดปลาดุก ใครนึกอะไรออกอีกบ้าง?
ถ้ายังนึกไม่ออก มีสูตรเด็ดในหนังสือ "จานอร่อยจากปู่ย่า สูตรโบราณ ๑๐๐ ปี" (สำนักพิมพ์สารคดี, ปี ๒๕๕๗) คือ "เนื้อต้มกระชาย" ของบ้านทับพะรังสี เขาต้มเนื้อวัวกับหอมแดง กระเทียม กระชาย พริกชี้ฟ้าแห้ง มะขามเปียก เกลือ น้ำปลา ผมเคยลองทำแล้ว อร่อยมากครับ กลิ่นกระชายเข้ากับต้มแบบนี้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ที่จะชวนลองทำนี้ผมปรับสูตรนิดหน่อย
เราต้มเนื้อวัว (ผมชอบส่วนซี่โครง) ในหม้อจนเริ่มเปื่อยจึงใส่หอมแดง กระเทียม พริกเหลืองทุบ และรากกระชายหั่นแว่นมากๆ ปรุงเค็มและเปรี้ยวด้วยเกลือ น้ำปลา และส้มแขกแห้ง ให้ได้รสที่ชอบ พอเปื่อยได้ที่ ใส่ใบแมงลัก ตักไปกินได้แล้วครับ
เสน่ห์ของ "เนื้อต้มกระชาย" สูตรปรับปรุงนี้ คือกลิ่นและรสเปรี้ยวอ่อนๆ ที่มาจากกระชาย ส้มแขก และใบแมงลัก (lime basil) เป็นต้มส้มน้ำใสๆ รสโปร่งๆ ที่สามารถใส่กระชายมากได้มากเท่าที่จะทำได้
ลองต้มกินดู แล้วจะเข้าใจแจ่มแจ้งถึงคำว่า "อาหารเป็นยา" ขึ้นอีกเยอะเลยครับ