อายุยืน
อ่อนเยาว์ มีความสุข
H o l i s t i c
เรื่อง : ภัสน์วจี ศรีสุวรรณ์
ภาพประกอบ : zembe
เมื่อพูดถึงคนอายุยืนและมีความสุข เรามักนึกถึงประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีคนอายุยืนมากที่สุดในโลกเมื่อเทียบต่อจำนวนประชากร และมีงานศึกษาค้นคว้าด้านอายุยืนอย่างมีคุณภาพของคนญี่ปุ่นหลายชิ้นที่โด่งดังไปทั่วโลก
ในรายการ “ดูให้รู้” ตอนดึงสารความแก่ออกจากร่างกาย ศาสตราจารย์โชอิจิ ยามางิชิ ภาควิชาพยาธิสรีรวิทยาและการรักษาภาวะแทรกซ้อนของหลอดเลือดโรคเบาหวาน มหาวิทยาลัยคุรุเมะ ประเทศญี่ปุ่น ใช้เวลา ๓๐ ปี ศึกษาสารเอจีอีหรือ AGEs (advanced glycation end products) โดยมีแรงบันดาลใจจากการพบว่า คนเป็นโรคเบาหวานมีสารเอจีอีอยู่ในร่างกายจำนวนมาก ซึ่งทำให้ร่างกายเสื่อมโทรมและแก่กว่าวัย สารเอจีอีจึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่าสารความแก่
เขาบอกว่าน้ำตาลคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดสารเอจีอีในร่างกาย โดยเมื่อโปรตีนกับน้ำตาลทำปฏิกิริยากันจะทำให้เกิดสนิมหรือสารเอจีอี
การลดสารเอจีอีทำได้โดยเลือกกินอาหารที่เหมาะสม อาหารที่มีเอจีอีสูงจะประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมันจำนวนมาก เช่น ข้าวผัด อาหารทอด ไก่ทอดมีเอจีอีมากกว่าไก่ต้มถึง ๑๐ เท่า สปาเกตตีคาร์โบนารามีสารเอจีอี ๒๗,๐๓๓ หน่วย พิซซ่า ๑๙,๖๗๖ หน่วย ทาโกะยากิ ๙,๔๑๘ หน่วย ส่วนอาหารสด ไม่ทอด ไม่ย่าง เช่นปลาดิบ มีสารเอจีอีเพียง ๖๙ หน่วยเท่านั้น อาหารผ่านกระบวนการเช่นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีเอจีอีสูง เช่นเดียวกับผลไม้ที่มีรสหวาน การดื่มน้ำผลไม้แย่พอ ๆ กับน้ำอัดลม เพราะนอกจากจะไม่มีกากใยแล้ว ยังมีน้ำตาลในตัวเองและมีน้ำตาลที่เติมลงไปอีกด้วย บุหรี่มีเอจีอีสูง เพราะเกิดจากการเผาใบยาสูบ มิหนำซ้ำควันจากบุหรี่ยังทำให้แก่กว่าวัย
การเรียงลำดับการกินอาหารก็สำคัญ โดยให้กินผักก่อน กินเนื้อตาม แล้วกินข้าว เนื่องจากข้าวจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้เร็วกว่าจะกินข้าวอิ่ม ข้าวก็เปลี่ยนเป็นน้ำตาลมากมาย แต่ถ้ากินผักและโปรตีนก่อน เมื่ออิ่มแล้วจะกินข้าวได้น้อยลง ช่วยให้ร่างกายสร้างสารเอจีอีน้อยลง
จากการศึกษาทดลองนาน ๘ ปีเพื่อดึงสารเอจีอีออกจากร่างกายของหนู พบว่าหนูที่เป็นมะเร็งซึ่งถูกดึงสารเอจีอีออกจากร่างกายมีขนาดก้อนมะเร็งลดลง เส้นเลือดที่อุดตันในสมองหายไป และเส้นเลือดที่แข็งตัวก็นิ่มลง ดังนั้นหากสามารถพัฒนาวิธีดึงสารเอจีอีออกจากร่างกายมนุษย์ได้อย่างปลอดภัย จะส่งผลดีต่อผู้เป็นโรคหลอดเลือดและระบบประสาท
ด้านนายแพทย์โยะชิโนะริ นะงุโมะ นายแพทย์วัยใกล้ ๖๐ ผู้เขียนหนังสือ ยิ่งอดยิ่งสุขภาพดี หรือ แก่ช้าลงแน่ แค่ปล่อยให้ท้องหิว ใช้เวลา ๘ ปีทดลองและค้นพบหนทางดูแลสุขภาพจนทำให้ร่างกายเขาอ่อนกว่าวัย จากการทดสอบทางกายภาพพบว่าเขามีอายุสมองเทียบเท่าคนอายุ ๓๘ ปี อายุกระดูกเทียบเท่าคนอายุ ๒๘ ปี และอายุหลอดเลือดเทียบเท่าคนอายุ ๒๖ ปี
เขาบอกว่าเคล็ดลับสำคัญคือปล่อยให้หิวหรือท้องร้องเสียบ้าง เนื่องจากโกรทฮอร์โมนและยีนเซอร์ทูอินซึ่งทำหน้าที่ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อเผาผลาญไขมัน จะทำงานเฉพาะช่วงหิวเท่านั้น ส่วนฮอร์โมนอะดิโพเนกทินซึ่งมีหน้าที่ทำความสะอาดหลอดเลือด เป็นตัวชี้วัดความอ่อนเยาว์ของหลอดเลือด จะไม่ทำงานในคนที่มีไขมันสูง การปล่อยให้รู้สึกหิวจะกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนเหล่านี้
นายแพทย์โยะชิโนะริแนะนำให้กินอาหารเพียงวันละหนึ่งมื้อ โดยกินอาหารทุกส่วนเพื่อให้ได้สารอาหารและโภชนา-การครบถ้วน เช่น กินผลไม้ทั้งเปลือก กินปลาทั้งชิ้น ถ้าหิวจนทนไม่ไหวให้รองท้องด้วยไข่หนึ่งฟอง หากกินสามมื้อ แต่ละมื้อควรกินแค่ครึ่งกระเพาะหรือ ๖๐ เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่แนะนำให้เด็กหรือสตรีมีครรภ์ใช้วิธีนี้ ไม่ควรออกกำลังกายด้วยการวิ่ง แต่ให้เดินเร็ว นอนไม่เกิน ๒ ทุ่ม และตื่นเช้าเพื่อรับแสงแดดอ่อน
ที่ต้องนอนเร็ว เพราะร่างกายจะผลิตโกรทฮอร์โมนในช่วงที่เรานอนหลับประมาณ ๔ ทุ่มถึงตี ๒ เท่านั้น ที่ต้องตื่นเช้า เพราะแสงอาทิตย์จะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขที่ชื่อเซโรโทนิน ที่สำคัญคือควรทิ้งความกังวลและปลดปล่อยความเครียดออกไปให้หมด โดยอย่าอยู่ใกล้ต้นเหตุที่ทำให้เครียด ไม่คิดมาก การลืมทำได้ด้วยการนอนหลับ เพราะประสาทส่วนฮิปโปแคมปัสจะช่วยจัดระบบความทรงจำทำให้ลืมสิ่งที่ไม่อยากจำได้ และหลอกล่อสมองด้วยการแสดงความรู้สึกชอบเวลาเจอสิ่งที่ทำให้เราเครียด เช่น แกล้งส่งเสียงดีใจ เป็นต้น
เมื่อศึกษาแนวทางสุขภาพดี อ่อนเยาว์ และอายุยืนตามที่กล่าวข้างต้นแล้ว จึงเหลือแต่การเลือก ทดลอง ปรับปรุงเพื่อให้เข้ากับสภาพร่างกายและจิตใจ
สิ่งสำคัญไม่ควรลืมคือ สุขภาพดีไม่ใช่เรื่องทางกายเพียงอย่างเดียว ต้องใส่ใจความรู้สึกนึกคิดและจิตใจด้วย
เคล็ดลับอายุยืน
แบบนายแพทย์ชิเงอากิ ฮิโนฮาระ (Shigeaki Hinohara) ผู้อายุยืน ๑๐๕ ปี และยังทำงานด้านการแพทย์อย่างจริงจังก่อนเสียชีวิตไม่กี่เดือน
อย่ารีบเกษียณ
คนจำนวนมากจะหยุดกิจกรรมในชีวิตอย่างสิ้นเชิงหลังเกษียณอายุ แล้วพบว่าว่างมาก แต่เขายังทำงานที่โรงพยาบาลและมีกิจกรรมทางสังคม แม้อายุเกิน ๑๐๐ ปี จงกระตือรือร้นโดยวางแผนการทำงานหรืองานอดิเรกอยู่เสมอ แต่การงานในช่วงท้ายของชีวิตไม่ควรเต็มไปด้วยความเครียดและไม่เต็มใจทำ เพราะจะทำให้อายุสั้นลง
หมั่นใช้บันได
กิจกรรมทางกายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สุขภาพดี การนั่งมากเกินไปไขมันจะเริ่มก่อตัว ไม่ได้ใช้กล้ามเนื้อและฝึกสมอง การใช้ร่างกายประจำวันที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ คือ การเดิน การขึ้นบันได หรือออกไปซื้อของด้วยตัวเอง
อย่าปล่อยให้น้ำหนักตัวมากเกินไป
มื้อเช้าเขาดื่มกาแฟ น้ำส้ม นม และน้ำมันมะกอกหนึ่งช้อน มื้อเที่ยงดื่มนมหรือคุกกี้ ถ้างานยุ่งจะงดมื้อกลางวัน มื้อเย็นกินผัก ปลา และข้าวเล็กน้อย กินเนื้อไม่ติดมัน ๑๐๐ กรัม สัปดาห์ละสองครั้ง
อย่ายึดมั่นกับกฎสุขภาพจนเข้าขั้นหมกมุ่น
แม้การออกกำลังกายและกินอาหารตามหลักโภชนาการคือเส้นทางสู่สุขภาพดีและอายุยืนยาว เขาเน้นย้ำว่าไม่จำเป็นต้องยึดติดกับกฎระเบียบเหล่านั้นจนถึงขั้นหมกมุ่น “อย่าให้ร่างกายเหนื่อยล้าด้วยการยึดกฎระเบียบ เช่น เวลากิน เวลานอนมากเกินไป ให้นึกถึงเด็ก ๆ ที่เล่นสนุกจนลืมกินลืมนอน แต่สุขภาพดี”
“หมอไม่ได้รักษาทุกโรค”
แต่ละคนมีความพิเศษเฉพาะตัว “เพื่อรู้จักโรคและช่วยเหลือผู้คน เราต้องการศิลปศาสตร์ ไม่ใช่แค่ศาสตร์การแพทย์อย่างเดียว” ความสนุกสนานคือยาขนานเอก ดังเช่นเด็กปวดฟันที่เล่นจนลืมปวดฟัน ดนตรีและศิลปะบำบัดจะช่วยรักษาผู้ป่วยได้อย่างที่หมอคาดไม่ถึง
หาเป้าหมายชีวิตที่ทำให้ไม่ว่าง
ไม่ใช่แค่กิจกรรมที่ทำให้ยุ่งอยู่ตลอดเวลา แต่ต้องเป็นกิจกรรมที่มีความหมายและมีคุณค่าต่อชีวิต มิเช่นนั้นจะกลายเป็นคนที่ยุ่ง แต่ภายในรู้สึกว่างเปล่า ดังที่เขาเชื่อว่าเขามีชีวิตเพื่อการให้ จึงตื่นเช้าทุกวันอย่างมีชีวิตชีวาเพื่อไปช่วยเหลือผู้คน
จงหาแรงบันดาลใจ ความรื่นรมย์
และความสงบสุขในชีวิตผ่านงานศิลปะ
อย่าเน้นครอบครองทรัพย์สินเงินทอง เพราะสิ่งที่ทำให้คนมีความสุขระยะยาวคือประสบการณ์ชีวิต มิใช่สิ่งของ