เรานั่งรถไฟออกจากสถานีโตเกียว กำลังไปจังหวัดคานางาวะ เมื่อลงรถไฟก็ต่อรถบัสประจำทางขับขึ้นเนินไปเรื่อย ๆ ระหว่างทางเป็นป่าเขา สลับกับบ้าน เรากำลังจะไปดาว บี ๖๑๒

เช้าวันที่อากาศดีมาก ๆ วันหนึ่ง เรามองเห็นหมู่อาคารแบบตะวันตก โผล่ออกมาสลับกับสวนดอกไม้ด้านในของสวนมีโบสถ์ Saint-Maurice-de-Rémens ที่เป็นความทรงจำในวัยเด็กของผู้เขียน

ภายในเรียบง่ายและมีภาพประดับกระจกที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าชายน้อย

เราเดินมองลอดซุ้มกุหลาบซึ่งเป็นดอกไม้สำคัญในเรื่อง เจ้าชายน้อย และเมื่อเครื่องบินตกลงกลางทะเลทรายสะฮารา เขาก็เจอกับเจ้าชายน้อยผู้เต็มไปด้วยคำถาม เจ้าชายน้อยจะพาเราออกเดินทางไปเจอผู้คนบนดวงดาวต่าง ๆ ในจักรวาล

เครื่องบินสีแดงที่พา อ็องตวน เดอ แซ็งแต็กซูว์เปรี 
ไปเจอกับเจ้าชายน้อย

อาคารภายในพิพิธภัณฑ์จำลองแบบมาจากอาคารในเมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ อ็องตวน เดอ แซ็งแต็กซูว์เปรี 

พื้นที่โดยรอบของพิพิธภัณฑ์จัดเป็นสวนที่ตกแต่งด้วยดอกไม้หลากหลายชนิด และมีรูปปั้นตัวละครในเรื่องตกแต่งอยู่ตามจุดต่าง ๆ ภายในสวน

ภายในอาคารมีนิทรรศการเล่าประวัติผู้เขียน เจ้าชายน้อย ตกแต่งด้วยภาพวาดตัวละครที่ปรากฏในเรื่องซึ่งเป็นภาพชุดเดียวกับภาพประกอบที่ อ็องตวน เดอ แซ็งแต็กซูว์เปรี  วาดเอาไว้ในหนังสือของเขา

รูปปั้นพระราชาผู้เชื่อว่าพระองค์นั้นเป็นเจ้าของทุกอย่างในจักรวาล

รูปปั้นของนักภูมิศาสตร์
ผู้แนะนำให้เจ้าชายน้อยมาที่โลกมนุษย์

แล้วเราก็มองเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ ผมสีทอง มีผ้าพันคอที่กำลังปลิวตามแรงลม พร้อมกับมีเสียงในหัวดังขึ้นว่า “กาลครั้งหนึ่ง มีเจ้าชายน้อยองค์หนึ่ง อาศัยอยู่บนดาวที่ใหญ่กว่าตัวเขานิดเดียว เขาอยากมีเพื่อน...”

ดอกกุหลาบแสนหยิ่งในครอบแก้ว

รูปปั้นคนจุดโคม 

หลังจากเดินชมนิทรรศการและบริเวณโดยรอบของพิพิธภัณฑ์จนมาถึงทางออกเจ้าชายน้อยจึงกระซิบบอกกับเราว่า “สิ่งสำคัญไม่อาจเห็นด้วยตา”  

ข้อมูลจากหนังสือ เจ้าชายน้อย
เขียนโดย อองตวน เดอ แซ็งแต็ก-ซูเปรี
แปลโดย อริยา ไพฑูรย์
สำนักพิมพ์มองฟ้า