A BRIEF
HISTORY OF
CAMERA

เรียบเรียง : หนอนกระดึ๊บ

Image

Ibn al-Haytham 
al Hazen

อิบน์ อัล-ฮัยษัม อัลฮะเซน นักปราชญ์อาหรับอธิบายถึงการทำงานของห้องมืดเจาะรูเล็กๆ ให้แสงทะลุผ่านไปที่ผนังด้านตรงข้ามปรากฏภาพของทิวทัศน์ภายนอกเป็นภาพกลับหัวบนผนัง

Image

Image

Johannes Kepler

Image

โจฮานเนส เคปเลอร์ ประดิษฐ์กระโจมกล้องรูเข็มซึ่งมีเลนส์และกระจกสะท้อนแสงที่ยอดกระโจมฉายภาพลงมาที่กระดานวาดภาพและตั้งชื่อให้กล้องรูเข็มว่า camera obscura ซึ่งเป็นภาษาละติน คำว่า camera หมายถึงห้องที่มีหลังคาโค้ง ส่วน obscura แปลว่ามืด เป็นต้นทางของการใช้คำว่า camera หมายถึงกล้องถ่ายภาพในภายหลัง

Image

Johann Zahn

Image

โยฮันน์ ซาน ออกแบบกล้องออบสคูราขนาดเล็กมีกระบอกเลนส์ด้านหน้า และกระจกสะท้อนแสง ๔๕ องศาด้านหลังนับเป็นกล้องที่มีลักษณะใกล้เคียงกับกล้องถ่ายรูปซึ่งประดิษฐ์ขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ ๑๙

Image

Johann Heinrich Schulze

โยฮันน์ ไฮน์ริช ชูลเซอ หลังจากทดลองหลายต่อหลายครั้งก็พบว่าสารซิลเวอร์ไนเตรตจะกลายเป็นสีดำเมื่อถูกแสงแดด นับเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาสารไวแสงสำหรับเคลือบวัสดุบันทึกภาพ

Image

Thomas Wedgwood

โทมัส เวดจ์วูด ใช้แสงแดดสร้างภาพใบไม้บนแผ่นหนังอาบน้ำยาซิลเวอร์ไนเตรตได้สำเร็จแต่ในที่สุดภาพกลายเป็นสีดำทั้งหมดเมื่อทิ้งไว้ให้โดนแสง เพราะยังไม่มีวิธีคงสภาพของภาพไว้

Image

Joseph Nicephore Niepce 

โฌแซฟ นีเซฟอร์ เนียปส์ ใช้กระดาษฉาบเกลือของซิลเวอร์วางหลังกล้องออบสคูรา สามารถบันทึกภาพกรงนกพิราบนอกหน้าต่างเห็นรายละเอียดต่างๆ แต่เป็นภาพเนกาทีฟคือวัตถุต่างๆ เป็นสีขาว ส่วนบริเวณสว่างเป็นสีดำ 

Image

Image

โฌแซฟ นีเซฟอร์ เนียปส์ เป็นคนแรกที่หาวิธีคงสภาพภาพถ่ายสำเร็จ เขาใช้แผ่นโลหะพิวเตอร์ (ดีบุกผสม) ฉาบยางมะตอยธรรมชาติ ติดตั้งในกล้องออบสคูรา และเปิดรับแสงเข้ากล้องนาน ๘ ชั่วโมงก่อนนำไปล้างด้วยน้ำมันจากดอกไม้ทำให้ได้ภาพโพซิทีฟขาวดำ และคงสภาพได้เป็นครั้งแรก เขาตั้งชื่อกระบวนการนี้ว่า เฮลิโอกราฟี (heliography) แปลว่าภาพวาดโดยดวงอาทิตย์  

Image

Louis Jacque Mande Daguerre 

ลุย ฌาก ม็องเด ดาแกร์ ประดิษฐ์วิธีถ่ายภาพดาแกร์โรไทป์ (daguerreotype) ใช้แผ่นโลหะทองแดงอาบซิลเวอร์ไอโอไดด์เป็นแผ่นรับภาพในกล้อง
ใช้เวลาเปิดรับแสง ๓๐ นาที แล้วใช้ไอปรอททำให้เกิดภาพและสารละลายเกลือแกงรักษาภาพ นับเป็นวิธีถ่ายภาพซึ่งทำได้สะดวกและได้รับความนิยมต่อมา

Image
Image

Image

William Herschel

วิลเลียม เฮอร์เชล นักวิทยาศาสตร์ผู้โด่งดังในสมัยนั้นเขียนบทความโดยใช้คำว่า photography หมายถึงการถ่ายภาพทำให้คำนี้เป็นที่ยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลาย  

Image

Joseph Petzval

โจเซฟ เพ็ตซ์วาล ประดิษฐ์เลนส์ถ่ายภาพโดยใช้เลนส์สี่ชิ้นประกอบกันเพื่อลดความผิดเพี้ยนของภาพจากเลนส์ที่เป็นชิ้นเดี่ยวได้รับความนิยมต่อมาเกือบ ๑ ศตวรรษ

Image

Image

Frederick Scott Archer

เฟรเดอริก สกอตต์ อาร์เชอร์ ค้นพบการถ่ายภาพโดยใช้แผ่นกระจกเปียกสารไวแสง เรียกว่าเพลตเปียก (wet plate) ใช้เวลาถ่ายเร็วกว่าและรายละเอียดของภาพมากกว่าการถ่ายรูปแบบดาแกร์โรไทป์

Image

Charles Harrison & Joseph Schnitzer

Image

ชาร์ลส์ แฮร์ริสัน และโยเซฟ ชนิทเซอร์ จดสิทธิบัตรกลไกการควบคุมขนาดรูรับแสงในเลนส์กล้องถ่ายรูป โดยใช้แผ่นไดอะแฟรม ซึ่งเป็นพื้นฐานของกลไกในกล้องถ่ายรูปมาถึงปัจจุบัน

Image

Dr. Richard Leach Maddox

ดร. ริชาร์ด ลีช แมดดอกซ์ เป็นคนแรกที่พัฒนา “เพลตแห้ง” (dry plate) ซึ่งมีประสิทธิภาพกว่าเพลตเปียก โดยใช้เจลาตินผสมซิลเวอร์โบรไมด์เคลือบแผ่นกระจก ทำให้การถ่ายภาพสะดวกขึ้นเพราะไม่ต้องล้างภาพทันทีที่ถ่ายเสร็จเหมือนเพลตเปียก และทำให้ต่อมาสามารถสร้างกล้องถ่ายรูปเป็นกล่องขนาดสองมือถือเรียกว่า box camera

Image

George Eastman

จอร์จ อีสต์แมน ผลิตกล้องตัวแรกที่ใช้ฟิล์มกระดาษออกจำหน่ายโดยบรรจุฟิล์มมาให้ ๑๐๐ ภาพพร้อมในกล้อง ตั้งชื่อว่าโกดัก (Kodak) ซึ่งเป็นคำที่ไม่มีความหมายเมื่อถ่ายภาพครบแล้วส่งกล้องกลับมาให้โกดักล้างภาพ ตามสโลแกนว่า “You press the button, we do the rest” ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้กล้องถ่ายรูปเป็นอุปกรณ์ที่ใครๆ ก็ถ่ายภาพได้

Image
Image

Image

Henry Reichenbach

Image

เฮนรี ไรเชินบาค นักวิจัยของบริษัทอีสต์แมน พัฒนาฟิล์มถ่ายรูปที่บางเหมือนกระดาษแต่โปร่งแสงเหมือนแก้ว จากพลาสติกสังเคราะห์เซลลูลอยด์ (celluloid) ขึ้นมาใช้แทนฟิล์มกระดาษ

Image

Oskar Barnack

ออสคาร์ บาร์แน็ก เริ่มคิดประดิษฐ์กล้องถ่ายรูปที่มีขนาดเล็กลงโดยใช้ฟิล์มขนาด ๓๕ มม. สำหรับถ่ายภาพยนตร์ และต้องใช้เลนส์ที่มีคุณภาพสูงเพื่อเก็บรายละเอียดภาพไว้ในฟิล์ม และนำไปอัดขยายเป็นภาพขนาดใหญ่ได้ภายหลัง

Image

Leica I

กล้องถ่ายรูปใช้ฟิล์มขนาด ๓๕ มม. เลื่อนฟิล์มตามแนวนอนใช้เลนส์ขนาด ๕๐ มม. ประดิษฐ์โดย ออสคาร์ บาร์แน็ก ได้รับการผลิตออกจำหน่ายครั้งแรกในชื่อ Leica I ทำให้ฟิล์ม ๓๕ มม. กลายเป็นมาตรฐานของกล้องถ่ายรูปในเวลาต่อมา

Image

Image

SLR

กล้อง single lens reflex  ขนาด ๓๕ มม. หรือที่นิยมเรียกย่อว่ากล้อง SLR คือมีกระจกสะท้อนภาพที่จะถ่ายให้เห็นในช่องมอง ช่วยการจัดองค์ประกอบภาพและปรับโฟกัสก่อนถ่ายภาพ เริ่มจำหน่ายครั้งแรกโดยกล้องยี่ห้อ Ihagee รุ่น Kine Exakta กล้องรุ่นนี้ยังถือเป็นกล้องรุ่นแรกที่เปลี่ยนเลนส์ได้ด้วย

Image

Image

Six-20

กล้อง Super Kodak Six-20 ถือเป็นกล้องถ่ายรูปตัวแรกที่มีระบบวัดแสงอัตโนมัติแต่ราคาสูงมาก และระบบยังไม่เสถียร ทำให้มีการส่งกล้องคืนมาซ่อมจำนวนมาก

Image

Polaroid
Model 95

Image

กำเนิดกล้องชนิดแรกที่ถ่ายภาพแล้วอัดภาพออกมาให้เองอัตโนมัติในเวลาไม่ถึงนาที ชื่อ Polaroid Model 95 แม้จะมีราคาสูง แต่การพัฒนาในรุ่นต่อ ๆ มาสำหรับตลาดทั่วไป ทำให้กลายเป็นหนึ่งในกล้องที่มียอดขายสูงสุด

Image

Autofocus
Camera

กล้องถ่ายรูป Konica C35 AF ถือเป็นกล้องที่สามารถโฟกัสภาพอัตโนมัติ (autofocus camera) ผลิตออกจำหน่ายครั้งแรก

Image

Image

Single-use
Camera

กล้องถ่ายรูปแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งของฟูจิในชื่อ Fujifilm QuickSnap ผลิตออกจำหน่ายครั้งแรกและได้รับความนิยมไปทั่วโลกเพราะขนาดกะทัดรัดและง่ายจนใครๆ ก็ถ่ายภาพจากกล้องนี้ได้ ต่อมากล้องประเภทนี้ได้รับการพัฒนาความสามารถสูงขึ้น เช่น มีแฟลชในตัว กันน้ำ ถ่ายภาพพาโนรามา  

Image

Image

Dycam
Model 1

กล้องถ่ายรูปดิจิทัลตัวแรกที่ผลิตออกขาย ชื่อ Dycam Model 1 หรือ Logitech Fotoman บันทึกภาพเป็นไฟล์ดิจิทัล ซึ่งต้องต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อโอนภาพ

Image

Image

The Turning Point

บริษัทโกดักประกาศยุติการผลิตกล้องฟิล์มและต่อมาใน ค.ศ. ๒๐๐๙ ก็ยุติการผลิตฟิล์มสไลด์สี Kodachrome ด้วย