Image

บริเวณชายฝั่งตอนปลายสุดของสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ พืชพรรณส่วนใหญ่อยู่ใน Cape Floristic Kingdom อาณาจักรของพืชที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก แต่มีความหลากหลายของพืชเฉพาะถิ่นสูงที่สุดแห่งหนึ่ง

"ความจริงของเอกภพ
ย่อมดำรงอยู่เสมอ"
รศ.ดร. กิติเชษฐ์ ศรีดิษฐ
นักพฤกษศาสตร์ด้านอนุกรมวิธาน
และนิเวศวิทยาของพืช

INTERVIEW

สัมภาษณ์และเรียบเรียง : ฐิติพันธ์ พัฒนมงคล
ภาพ : จิตรทิวัส พรประเสริฐ

รศ.ดร. กิติเชษฐ์ ศรีดิษฐ นักพฤกษศาสตร์ด้านอนุกรมวิธานและนิเวศวิทยาของพืช เคยใช้ชีวิตตั้งแต่เกิดจนกระทั่งเรียนจบมหาวิทยาลัยที่บ้านสวนย่านบางขุนนนท์ ริมคลองบางกอกน้อย จังหวัดธนบุรี

หลังสำเร็จการศึกษาเป็นมหาบัณฑิตจากภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำงานเป็นนักพฤกษศาสตร์ช่วยวิจัย ณ หอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (กรมป่าไม้เดิม) ในโครงการสำรวจพรรณไม้ห้วยขาแข้ง จากนั้นเขาได้รับทุน
จากรัฐบาลออสเตรียไปเรียนต่อปริญญาเอกด้านพฤกษศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเวียนนา ก่อนกลับมาเป็นอาจารย์ประจำสาขาพฤกษศาสตร์* ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กระทั่งเกษียณอายุราชการเมื่อปลายปี ๒๕๖๗

การเรียนการสอนด้านพฤกษศาสตร์รับรู้กันว่าไม่ได้สร้างรายได้หรือทำเงินเหมือนแขนงอื่น หากแต่เขาก็เลือกทางเดินชีวิตด้านนี้ตลอดมา

หลายปีที่ผ่านมาอาจารย์กิติเชษฐ์มีผลงานวิจัยและบรรยายโดยเฉพาะหัวข้อที่เกี่ยวกับระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ เช่น โครงสร้างของสังคมพืชบนบกตามชายฝั่งในคาบสมุทรไทย (Phytosociology of the Terrestrial Vegetation along the Coasts of the Peninsular Thailand), ความหลากหลายของพืชแบบมีเนื้อเยื่อลำเลียงไล่ตามลำดับความสูงของเทือกเขาหิมาลัยในเมรัก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซักเต็ง ประเทศภูฏาน (The Diversity of vascular plants along the altitudinal gradient of the Merak Himalaya, Sakteng Wildlife Sanctuary, Bhutan), ผลงานนำเสนอในฐานะวิทยากร หลัก เรื่องระบบนิเวศหายากในคาบสมุทรไทย (Unseen Ecosystems in Peninsular Thailand) เหล่านี้ล้วนสะท้อนความเชี่ยวชาญด้านนิเวศวิทยาและความหลากหลายของพรรณพืชในธรรมชาติ

Image

ล่าสุดอาจารย์กิติเชษฐ์เป็นผู้ร่วมจัดทำรายงานผลกระทบของเงินอุดหนุนที่เป็นอันตรายต่อความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศของประเทศไทย (The Impacts of Harmful Subsidies on Biodiversity and Ecosystems in Thailand) เผยแพร่โดยโครงการริเริ่มทางการเงินเพื่อความหลากหลายทางชีวภาพ (The Biodiversity Finance Initiative, BIOFIN) ในการดูแลของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme, UNDP) นำเสนอผลการวิเคราะห์ว่า เงินอุดหนุน (subsidies) จากภาครัฐเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ การทบทวนงบประมาณรายจ่ายของโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่น รอดักทราย เขื่อนกันตลิ่ง โครงการพัฒนาที่ดินบนพื้นที่ชุ่มน้ำ ฯลฯ ระหว่างปี ๒๕๖๔-๒๕๖๖ พบว่ามีการอนุมัติงบประมาณราว ๒๑๙,๗๘๘ ล้านบาท ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพตามมา

“คุณอาจไม่เชื่อ ตัวการสำคัญที่ทำลายธรรมชาติคืองบประมาณที่มาจากภาษีของพวกเราทุกคน”

อาจารย์กิติเชษฐ์บอกในช่วงหนึ่งของบทสนทนาที่สะท้อนให้เห็นหน้าที่สำคัญของนักชีววิทยา นั่นคือการตามหาความจริงของเอกภพ

หมายเหตุ * ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ

“ความฉิบหายของระบบนิเวศในประเทศไทยส่วนใหญ่มาจากพวกที่ไม่รู้ว่าไม่รู้ เรียนสูงแต่เหมือนไร้การศึกษา แล้วดันเป็นหัวหน้าหน่วยงานต่าง ๆ ตั้งแต่เล็กถึงใหญ่ และมีอำนาจตัดสินใจ”

Image