"ที่ทำ (พิพิธภัณฑ์) มา
เหมือนเป็นคำสัญญา"
ปากคำ เอนก-วรรณา นาวิกมูล
ในวาระ ๑๕๐ ปี
พิพิธภัณฑ์ไทย (ปี ๒๕๖๘)
INTERVIEW
สัมภาษณ์ : สุเจน กรรพฤทธิ์
ภาพ : วิจิตต์ แซ่เฮ้ง
คงไม่เกินไปนักถ้าจะกล่าวว่านิตยสาร สารคดี เป็นเพื่อนเก่าแก่กับ เอนก นาวิกมูล
เขาเป็นเจ้าของคอลัมน์ “มุมสะสม” ต่อเนื่องหลายปีตั้งแต่ สารคดี ถือกำเนิด (ปี ๒๕๒๘) และมีบทความสารคดีในต่างกรรมต่างวาระตีพิมพ์ใน สารคดี มาเป็นระยะ ๆ โดยเฉพาะเมื่อปี ๒๕๕๓ ในวาระ สารคดี มีอายุ ๒๕ ปี ได้มอบรางวัล “สารคดีเกียรติยศ” แก่ เอนก นาวิกมูล ซึ่งตอนนั้นเขามีอายุ ๕๗ ปี และทำงานเขียนสารคดีมากว่า ๓๐ ปีแล้ว
ต่อมาปี ๒๕๖๓ เขาได้รับการยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์
หากจะแนะนำอย่างย่นย่อที่สุด เขาคือผู้ที่ทำให้สังคมไทยตื่นตัวเรื่องการอนุรักษ์ของเก่าใกล้ตัวในฐานะประวัติศาสตร์สังคมมาตั้งแต่ทศวรรษ ๒๕๒๐ เป็น “ผู้ดูแลบ้าน พิพิธภัณฑ์” สองแห่ง สาขาศาลาธรรมสพน์ ซอย ๓ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ และสาขางิ้วราย อำเภอนครไชยศรี จังหวัดนครปฐม เป็นเจ้าของประโยค “เก็บวันนี้ พรุ่งนี้ก็เก่า” ผู้ทำงานอย่างหนัก อุทิศทั้งครอบครัวและตัวเองเพื่องานพิพิธภัณฑ์มาจนทุกวันนี้
ปี ๒๕๖๘ ในวัย ๗๒ ปี เอนกถืออายุเป็นเพียงตัวเลข เขายังทำงานที่รัก ปัดกวาดบ้านพิพิธภัณฑ์ทั้งสองแห่ง แบกของ ขนเก้าอี้ ปลูกต้นไม้ รับโทรศัพท์ตอบคำถามผู้มาติดต่อขอความรู้ด้วยอารีไม่ว่าจะวัยไหน
ข้าง ๆ กายเอนกคือคู่ชีวิต คู่ทุกข์คู่ยาก วรรณา นาวิกมูล “ผู้ร่วมคิดร่วมทำ” ที่ทำทุกอย่างมาด้วยกันตั้งแต่เริ่มต้น นอกจากเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย เธอยังเป็นแม่ของลูกสาวสองคน และเป็นผู้ช่วยคนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในงานบ้านพิพิธภัณฑ์
ในวาระ ๑๕๐ ปี พิพิธภัณฑ์ไทย จึงไม่มีอะไรที่จะเหมาะสมเท่ากับนั่งลงสนทนากับเอนก-วรรณา เกี่ยวกับเรื่องราวของบ้านพิพิธภัณฑ์ รวมถึงปุจฉา-วิสัชนา ถึงวงการพิพิธภัณฑ์เมืองไทย
ภาคที่ ๑
บทสนทนากับ
เอนก นาวิกมูล
ภาพ : ประเวช ตันตราภิรมย์
เปิดบ้านพิพิธภัณฑ์แห่งที่ ๒ ที่ตำบลงิ้วราย มาร่วมปี สุขภาพพี่เป็นอย่างไรบ้าง
ปีที่แล้ว (ปี ๒๕๖๗) วันหนึ่งช่วงสุดสัปดาห์ ผมเข้าห้องน้ำแล้วปวดหลัง ลุกไม่ได้ ดีที่ลูกอยู่บ้าน ช่วยพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ได้ทำกายภาพบำบัดแต่ก็ไม่ดีขึ้น ย้ายไปโรงพยาบาลธนบุรี ทวีวัฒนา นอนอยู่ ๔ คืน หมอบอกไขข้อสันหลังอักเสบ ต้องฉีดยา ในที่สุดฟื้นกลับมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ ผมเป็นโรคนี้มา ๔๐ ปีแล้ว เพราะแบกหามของมาตลอด รอบนี้หนักที่สุด ดีที่รัฐสนับสนุนค่ารักษาพยาบาล (ในฐานะศิลปินแห่งชาติ)
ภาคที่ ๒
บทสนทนากับ
วรรณา นาวิกมูล
อยากให้อาจารย์วรรณาเล่าชีวิตวัยเด็ก
เราเกิดในสวนแถวคลองบางแวก ฝั่งธนบุรี ชีวิตก็ลำเค็ญไปตามประสา แม่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เก่งมาก เก็บลูกผักตามแปลงที่เขาให้ถอนทิ้งมาลงเรือแล้วพายไปเร่ขาย เอาเรานอนตัก เอาหมวกวางกันแดด เคยมีบ้านของทวดในคลองบางแวกด้วย ปิดเทอมแม่เอาเราไปปล่อยในสวนจึงคุ้นกับตลาดน้ำมาแต่เด็ก
สมัยเด็กแม่บอกว่าไม่มีอะไรจะให้ ลูกต้องเรียน เรานี่ได้ดังใจแม่เพราะชอบไปโรงเรียนมาก ไม่เคยขาด ไม่เคยสาย ไม่เคยลา ไปโรงเรียนแต่เช้าเพราะอยากเล่นชิงช้า อยู่จนโรงเรียนเลิกก็เดินกลับ