scrollable-image

แค่พาตัว
ไปอยู่กลางธรรมชาติ

หาเวลาไปอยู่ในสวนสัก 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น ตัวกวนจริงๆ ก็คือมือถือ ปิดมือถือหรือตั้งค่าเป็นโหมดเครื่องบินไว้ ถ้ามากับเพื่อนก็พยายามงดการคุยเล่น หรือถกเถียงกันเรื่องเคร่งเครียด ตระหนักรู้อยู่กับปัจจุบัน เดินตามสบายไปตามทาง ไม่ต้องรีบหรือตั้งเป้าว่าจะไปที่ไหน และอยากจะหยุดพักตรงไหนก็ได้ที่รู้สึกปลอดภัย บอกตัวเองว่ามาใช้ชีวิตให้ช้าลง เรื่องอื่นๆ รอก่อนได้

ต้องมีอุปกรณ์
อะไรไหม

สำคัญที่สุดก็คือร่างกายของเราเอง ประสาทสัมผัสทั้ง 5 และหัวใจที่พร้อมเปิดรับประสบการณ์ใหม่ เริ่มต้นจากสูดหายใจเข้าออกช้าๆ ร่างกายจะได้รับไฟทอนไซด์ หรือสารระเหยจากน้ำมันธรรมชาติที่ต้นไม้ปล่อยออกมา ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล หรือแค่มองต้นไม้เขียวๆ เมฆก้อนลอย ท้องฟ้ากว้าง ฟังเสียงนกเสียงลมเพลินๆ ก็ช่วยให้จิตใจสงบและสดชื่นแล้ว แถมยังช่วยฟื้นฟูสุขภาพด้วย

Image

อยู่ๆ ก้อนความคิดหนักๆ
ก็มารบกวน

ปล่อยจอย รับรู้ว่าความคิดที่มาวุ่นวายใจเป็นเรื่องปกติ จังหวะเหมือนมีก้อนเมฆดำผ่านเข้ามา ให้รู้ว่าเดี๋ยวก็จะลอยผ่านไปอย่ามัวเอาใจไปหมกหมุ่นกับก้อนความคิดนั้นนาน ดึงตัวเองกลับมาอยู่กับธรรมชาติที่แวดล้อม ถ้าเดินอยู่ก็อาจหยุดเดิน กลับมาสังเกตสิ่งรอบตัว มีอะไรสะดุดใจสะดุดตาเราบ้าง ธรรมชาติซ่อนความงามและความหมายไว้มากมายในสิ่งต่างๆ ที่เราอาจเคยมองผ่าน

Image

เก็บพลังและความทรงจำ
กลับบ้าน

ถ้าอยากรับพลังจากธรรมชาติมากขึ้น ลองทำกิจกรรมหลากหลายอย่างที่แนะนำในแผนที่ฉบับนี้ ทุกครั้งที่ทำเสร็จ ชวนทบทวนความรู้สึกว่าทำแล้วรู้สึกอย่างไร ธรรมชาติบอกอะไรแก่เราบ้าง สิ่งเล็กๆ ที่มีติดตัวแล้วดีมาก คือสมุดบันทึก ดินสอหรือสีไม้ สำหรับจดบันทึกความรู้สึกและวาดภาพสิ่งต่างๆ ที่พบเห็นเวลาบันทึกเราจะมีสมาธิ มีความละเอียดอ่อนมากขึ้น และได้เก็บความทรงจำที่เมื่อวันหลังกลับมาเปิดอ่าน เราจะระลึกถึงความรู้สึกขณะนั้นได้เสมอ

Image