Image

“สายสัมพันธ์”

สุขต่างวัย

ทีมก็เพราะหัวใจเราผูกกัน
เรื่องและภาพ : วันเพ็ญ ดีพรม ด.ช. ปวันวิทย์ ปงอุดทา

“ครั้งที่ ๑ ครั้งที่ ๒ ครั้งที่ ๓…ครั้งที่ ๓๐ และครั้งที่ ๓๑”

จมูกของแม่บรรจงหอมลงบนหน้าผากของลูกทุกคืนก่อนนอน ตามจำนวนครั้งที่เด็กน้อยร้องขอให้ทำแบบนี้ไปจนกว่าเขาจะโตเป็นหนุ่ม หลังจากหอมแบบยาว ๆ เต็มปอดในครั้งที่ ๓๑ ไม่นานเด็กน้อยก็หลับปุ๋ยราวกับได้รับมนต์วิเศษ

การเลี้ยงเด็กคนหนึ่งจนโตรู้ความนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มีทั้งรอยยิ้มและหยาดน้ำตา ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่ให้ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน

หากย้อนเวลากลับไปเมื่อ ๑๐ ปีที่แล้ว หญิงสาวคนหนึ่งเริ่มต้นชีวิตคู่ เตรียมพร้อมมีลูกเพื่อเป็นโซ่ทองคล้องใจ จากนั้นไม่นานก็ตั้งครรภ์

และนี่คือจุดเริ่มต้นของชีวิตน้อย ๆ ที่กำลังจะเกิดมา เพื่อเติมเต็มคำว่า “ครอบครัว”
….
ตลอด ๙ เดือน ว่าที่คุณแม่ป้ายแดงใช้ชีวิตอย่างมีสติ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณพอดี พักผ่อนอย่างเพียงพอ หาข้อมูลและแนวทางเลี้ยงลูกในแบบฉบับที่ถูกจริตกับตัวเอง ที่สำคัญคือการดูแลสภาพจิตใจ

เพราะคิดเสมอว่า ความสุขของแม่ส่งผ่านไปยังลูกน้อยในครรภ์ได้

เมื่อถึงกำหนดเวลา เด็กน้อยคนหนึ่งก็ได้ถือกำเนิดบนโลกใบนี้ และไม่มีอะไรจะดีไปกว่าคำพูดของคุณหมอที่ว่า “ลูกของคุณครบสามสิบสอง แข็งแรงดีครับ”

แม่ผู้เป็นชนชั้นกลาง มนุษย์เงินเดือนที่ยังคงต้องหาเงินเพื่อเลี้ยงชีพ มีโอกาสเลี้ยงลูกเองในช่วง ๓ เดือนแรก เดือนที่ ๔ ก็ต้องกลับไปทำงานตามปรกติ ทั้งที่ในใจอยากอยู่กับลูกเหลือเกิน แต่ก็ถือว่ายังโชคดีที่มีคุณย่าคอยช่วยเลี้ยงตอนกลางวัน ส่วนคุณพ่อก็ทำงานนอกบ้านเช่นกัน ทุกคืนเราจะอยู่ด้วยกันสามคนพ่อแม่ลูก คุณพ่อคอยช่วยเหลือทุกอย่าง

Image

การได้คู่ครองที่ดียิ่งกว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ ๑ คงเป็นจริงสำหรับเรา และที่โชคดีไปกว่านั้นคือลูกเป็นเด็กที่เลี้ยงค่อนข้างง่าย ขอแค่เวลาหิวแล้วได้กิน เวลาง่วงแล้วได้นอน เวลาร้องแล้วมีคนอุ้ม ก็เติบโตมามีพัฒนาการที่ดีตามวัย

ในทุกวันที่แม่ออกไปทำงาน นอกจากกระเป๋าคอมพิวเตอร์ กระเป๋าเงิน ก็จะมีกระเป๋าอีกใบหนึ่งที่แม่ไม่เคยลืม นั่นก็คือ กระเป๋าอุปกรณ์ปั๊มนม ด้วยข้อมูลที่ว่าลูกที่กินนมแม่จะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับลูก แม่คนนี้ก็พร้อมลุย เรื่องงานต้องไม่เสีย เรื่องนมก็ต้องได้ เพื่อเป็นอาหารหลักที่ดีที่สุดให้ลูกน้อยใน ๖ เดือนแรก และเป็นอาหารเสริมที่มีค่าจนครบขวบปีแรก

แม่ใช้ชีวิตแบบไม่หวือหวาฟุ่มเฟือย เพราะยังมีหนี้บ้าน หนี้รถ และที่สำคัญมีเด็กน้อยตาดำ ๆ ที่คอยเป็นแรงผลักดัน ขับเคลื่อนให้แม่มีกำลังใจก้าวต่อไป

การเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้เติบโตมาแบบมีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องยากเกินกว่าที่แม่คนหนึ่งจะทำได้ แม่จะเลี้ยงลูกอย่างไรให้มีความสุข สุขตามสภาพความเป็นจริง

มีสิ่งหนึ่งที่แม่เชื่อเสมอมาคือเรื่องสายสัมพันธ์

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หากลูกมีสายสัมพันธ์ที่ดี เขาจะเติบโตและใช้ชีวิตต่อไปในทางที่ดีได้ ถึงแม้ระหว่างทางอาจเจอสิ่งเร้าสิ่งยั่วยวนต่าง ๆ มากมาย แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง สายสัมพันธ์ที่ดีจะดึงเขากลับมาตามทำนองคลองธรรมได้

ความทรงจำในวัยเด็กของแม่คือการได้ฟังนิทานและเรื่องเล่าจากคุณพ่อและคุณแม่ มันคือความสุขทางใจและยังคงอยู่ในความทรงจำเสมอ แม่จึงตั้งใจอ่านนิทานให้ลูกชายฟังก่อนนอน เริ่มต้นเมื่อลูกน้อยอายุได้ ๒ เดือน จนถึงวันนี้ก็ย่างเข้าปีที่ ๘ แล้ว

การอ่านนิทานช่วยทำให้ลูกเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย เข้าใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้เร็ว ที่สำคัญเห็นผลชัดเจนเมื่อลูกเข้าสู่วัยอนุบาล ลูกพร้อมไปโรงเรียน เป็นเด็กรักการอ่าน สื่อสารได้ดี

พัฒนาการยิ่งก้าวกระโดดเมื่อลูกเข้าสู่วัยประถมฯ อ่านออกเขียนได้ พร้อมเรียนรู้ เห็นจากคะแนนการสอบวัดความรู้ ความสามารถต่าง ๆ ลูกทำได้ดีทุกวิชา ดีจนแม่ตกใจ

ที่ดีไปกว่านั้นคือลูกเข้าใจสถานการณ์ต่าง ๆ และเอาตัวรอดได้ นี่คืออานิสงส์จากการอ่านนิทานนั่นเอง

ที่บ้านเรามีหนังสือนิทานมากมาย มีแม่ผู้หลงใหลในการเลือกซื้อ ลูกผู้หลงใหลในการอ่าน ชีวิตของเราเหมือนเติมเต็มกันและกัน วันเวลาผ่านไปหนังสือก็เต็มบ้าน ห้องนอนเหมือนห้องสมุด และที่สำคัญหนังสือสอนและเปิดโลกทัศน์ให้แม่คนนี้มากมายเช่นกัน

ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่แม่สอนให้ลูกได้ลงมือทำตั้งแต่ยังเล็ก คืองานบ้าน

ช่วงเล็กมาก ๆ แม่จับมือลูกเพื่อช่วยกันทำ เช่น เก็บของเล่น จัดชั้นวางหนังสือ พับผ้า จัดที่นอน ฯลฯ พอโตรู้เรื่องหน่อยก็มอบหมายงานชิ้นใหญ่ขึ้น เช่น ตากผ้า กรอกน้ำใส่ขวด กวาดบ้าน ถูบ้าน ซักถุงเท้ารองเท้า ฯลฯ

Image

ผลลัพธ์จะออกมาดีหรือไม่ดีนั้นไม่สำคัญ แม่จะชื่นชมในความตั้งใจที่ลูกลงมือทำและทำจนสำเร็จ

การทำงานบ้านนั้นเหมือนการอดเปรี้ยวไว้กินหวาน ลำบากก่อนสบายทีหลัง เป็นกลไกการยับยั้งชั่งใจและควบคุมตัวเอง ตามที่แม่ได้ติดตามเพจของคุณหมอประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ ที่ให้คำแนะนำที่ดีในการเลี้ยงลูก หวังว่าในวันหนึ่งข้างหน้า วันที่แม่ไม่อยู่แล้ว ลูกจะช่วยเหลือตัวเองและเป็นที่พึ่งพาให้ผู้อื่นต่อไปได้

บทเพลงยามค่ำคืนที่แม่ใช้กล่อมลูกน้อยเพื่อความอบอุ่นหัวใจและหลับฝันดี “อิ่มอุ่น” ของศุ บุญเลี้ยง ประโยคที่ว่า

“ให้กายเราใกล้กัน ให้ดวงตาใกล้ตา ให้ดวงใจเราสองเชื่อมโยงผูกพัน” ช่างลึกซึ้งกินใจยิ่งนัก

คนสองคนที่เคยอยู่ในร่างเดียวกัน มันคือความมหัศจรรย์ของชีวิต

บทเพลง “ไม่เคย” ของวง ทเวนตีไฟฟ์อาเวอส์ (25 hours) ที่แฝงด้วยข้อคิด โดยเฉพาะท่อนที่ว่า

“เราจะคิดถึงคนที่สำคัญ เมื่อต้องจากกันไป เราจะคิดถึงวันที่สวยงาม เมื่อเวลาผ่านไป” ลูกชอบฟัง อาจเพราะจังหวะทำนองที่ลงตัว ส่วนแม่นั้นชอบที่เนื้อหาสาระ โดยตั้งใจว่าจะให้ความสำคัญกับคนสำคัญ และทำทุกช่วงเวลาให้ดีที่สุด เพื่อจะได้ไม่เสียใจในภายหลัง

สองบทเพลงนี้ถือเป็นเพลงประจำของเรา แม้เสียงเพลงที่แม่ขับร้องจะไม่ได้ไพเราะ แต่คิดว่าเสียงนี้จะอยู่ในใจลูกเสมอ

นอกจากเสียงเพลงแล้ว ยังมีเสียงสวดมนต์ที่แม่สวดให้ลูกฟังเสมอๆ เริ่มต้นที่ นะโมสามจบ คำบูชาพระรัตนตรัย (อะระหัง สัมมา…) บทสวดอิติปิโส ศีล ๕ และจบท้ายด้วยการแผ่เมตตา

แม่เชื่อว่าความสงบคือความสุขสูงสุดของชีวิต และทุกวันนี้ส่งผลให้ลูกสวดมนต์บทต่าง ๆ ได้ ถึงแม้จะยังไม่เข้าใจแต่เมื่อโตขึ้น สิ่งนี้จะช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจ

รอยยิ้มและอ้อมกอดเป็นสิ่งที่เราสองคนแม่ลูกให้กันมาโดยตลอด ลูกมักบอกว่า

“ชอบตอนแม่ยิ้ม แม่สวยและใจดีมาก”

คนเป็นแม่เมื่อได้ยินคำนี้ก็หน้าบาน แต่ว่าในความเป็นจริงแม่จะยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นนางฟ้าตลอดเวลาก็คงไม่ได้ บางทีแม่ก็กลายร่างเป็นนางยักษ์แยกเขี้ยวขึ้นมา เมื่อถึงเวลานั้นลูกก็จะมาดับร้อนในใจแม่ด้วยการขอกอด

มีอยู่ครั้งหนึ่งที่แม่กำลังยุ่งมาก ลูกก็มาวุ่นวายเซ้าซี้ แม่เลยพูดเสียงดัง

“หยุด แม่จะเป็นโรคประสาทแล้ว”

สิ่งที่ลูกพูดกลับมา คือ “แม่ต้องกินบีห้าแล้วล่ะ” ซึ่งแม่ก็งง “ห๊ะ มันคืออะไร” ลูกก็ขยายความทันทีว่า “วิตามินบีห้า กรดแพนโทเทนิก ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง”

Image

ด้วยวัย ๕ ขวบและแววตาอันเป็นมิตร แม่รู้ได้ทันทีว่าลูกไม่ได้กวน แต่ลูกกลับเป็นห่วงแม่ต่างหาก จากนั้นก็กอดลูกแล้วยิ้มให้ ในขณะเดียวกันเวลาที่ลูกผิดหวังหรือทำอะไรไม่สำเร็จ แม่ก็จะใช้พลังแห่งการกอดนี้ ช่วยปลอบประโลมจิตใจลูกเช่นกัน

ชีวิตไม่ได้สมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง มีสมหวัง ผิดหวัง และผิดพลาดกันได้ทั้งนั้น

แม่คนนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นแม่ที่สมบูรณ์แบบ แต่ขอเป็นแม่ที่พอดีกับลูกก็พอ

วันหยุดของเราสองคนแม่ลูก ส่วนใหญ่มักจะเล่นกัน สมัยเด็ก ๆ เล่นบทบาทสมมติ พอโตขึ้นมาหน่อยก็ทำกิจกรรม ส่วนใหญ่จะเป็นงานประดิษฐ์ โดยเฉพาะสิ่งของเหลือใช้ภายในบ้าน ลูกนำมาประดิษฐ์ดัดแปลงได้หมด

ความฝันของลูกคือการเป็นนักประดิษฐ์หุ่นยนต์ ด้วยความที่แม่เคยถ่ายคลิปวิดีโอหุ่นยนต์ชงกาแฟ แล้วมาเปิดให้ลูกดูที่บ้าน บอกกับลูกว่า “มันเจ๋งดีเนอะ ดูสิรู้ทุกอย่างเลยว่าจะต้องเติมอะไร จำนวนแค่ไหน และคนนานกี่วินาที”

วันนั้นสีหน้าและแววตาของลูกดูสนใจมาก วันเวลาผ่านไปน่าจะราว ๆ ๒ ปี ลูกเรียนอยู่ชั้น ป. ๑ ขณะที่เรียนออนไลน์ คุณครูถามเด็กแต่ละคนว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร คำตอบส่วนใหญ่ ก็คือ คุณครู คุณหมอ พยาบาล ทหาร ตำรวจ และยูทูเบอร์ ส่วนลูกตอบคุณครูอย่างมั่นใจว่า “ผมอยากเป็นนักประดิษฐ์หุ่นยนต์ครับ”

คุณครูถามลูกว่า “ทำไมถึงอยากเป็นนักประดิษฐ์หุ่นยนต์ล่ะครับ” คำตอบของลูกคือ “หุ่นยนต์ช่วยงานมนุษย์ได้เยอะครับ”

พอเรียนออนไลน์จบ แม่ก็เลยถามว่า “อยากเป็นนักประดิษฐ์หุ่นยนต์เหรอลูก” ลูกบอกว่า “ใช่ ก็ได้แรงบันดาลใจจากแม่นี่แหละ ตอนที่แม่ให้ดูหุ่นยนต์ชงกาแฟไง”

แม่ก็เพิ่งรู้ว่าสิ่งที่แม่ให้ดูหรือคำพูดแค่ไม่กี่คำก็สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกได้

วันนั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ได้คุยกับลูกว่าอยากเรียนพิเศษอะไรเพิ่มเติม ซึ่งลูกก็ขอเรียนเสริมหุ่นยนต์ แม่จึงพาไปเรียนคอร์สหุ่นยนต์สำหรับเด็ก ถึงแม้ว่ารายจ่ายจะเพิ่มขึ้น แต่เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจของลูกเวลาเรียน และคำชื่นชมของคุณครูที่สอน ก็ได้แต่อมยิ้มในใจว่า วันหนึ่งเราอาจจะได้เห็นนักประดิษฐ์คนเก่งของประเทศก็เป็นได้

นอกจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ กับลูกในวันหยุด สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นทุกสัปดาห์เว้นสัปดาห์ คือการที่แม่พาลูกไปหาคุณตาและคุณยาย

Image

จากจังหวัดพระนครศรีอยุธยามุ่งสู่จังหวัดนครปฐม เราใช้ระยะเวลาเดินทางไปกลับประมาณ ๔ ชั่วโมง ถึงแม้จะมีเหนื่อยบ้าง แต่เมื่อเทียบกับความสุขที่ได้รับมันคุ้มค่ามาก

นี่คือความสุขต่างวัยอย่างแท้จริง ตายายในวัย ๗๐ พ่อแม่ในวัย ๔๐ และลูกในวัยใกล้ ๘ ขวบ นั่นคือ สายสัมพันธ์รุ่นต่อรุ่น พวกเรากินข้าว พูดคุยกัน ดูแลและยอมรับซึ่งกันและกัน ถึงแม้ว่าบางครั้งจะมีความเห็นที่ต่างกัน เราก็สามารถใช้ชีวิตในครอบครัวเดียวกันได้อย่างสงบสุข

สิ่งที่ลูกเห็นแม่ทำให้คุณตาคุณยายเสมอ คือ การตัดเล็บ บีบนวด ดูแลเรื่องอาหารการกิน ส่งผลให้ลูกค่อนข้างเป็นเด็กอ่อนโยนและเอาใจใส่ผู้อื่น

เมื่อวันแม่ที่ผ่านมา โรงเรียนให้เด็ก ๆ ทำการ์ดวันแม่

วันแรกลูกยังทำไม่เสร็จ ครูจึงให้เก็บไว้ที่โต๊ะหลังห้อง วันต่อมาการ์ดของลูกหาย ลูกจึงทำใหม่ และกลับมาเล่าให้แม่ฟังว่าอยู่ดี ๆ การ์ดหายเฉยเลย ทั้งที่วางรวม ๆ กับเพื่อน

ต่อมาก่อนวันแม่หนึ่งวัน ลูกทำการ์ดจนเสร็จและส่งครู จนถึงเวลาเย็น ครูให้เด็ก ๆ ไปรับที่โต๊ะ ปรากฏว่าการ์ดลูกหายเป็นครั้งที่ ๒ วันนั้นลูกลงมาด้วยสีหน้าเศร้า เจอแม่ก็วิ่งเข้ามากอด “การ์ดวันแม่หาย ไม่มีการ์ดให้แม่ในวันแม่แล้ว” ลูกบอกแล้วก็ร้องไห้

แม่เลยบอกว่า “ไม่เป็นไรลูก แค่รู้ว่าตั้งใจทำให้แม่ แม่รับรู้สิ่งนั้น มันไม่ได้อยู่ที่การ์ด มันอยู่ที่ใจ”

รุ่งเช้าวันแม่ต่อมา ลูกตื่นแต่เช้า และสิ่งที่แม่ได้รับคือการ์ดในแบบฉบับที่ลูกทำเอง อ่านข้อความในการ์ดไปยิ้มไป แม่ชอบและภูมิใจกับลูกคนนี้มาก และรู้ว่าทุกคำที่แม่สอน ลูกใส่ใจเสมอ

การมีความสุขกับเรื่องง่าย ๆ สุขกับสิ่งที่มี ยินดีกับสิ่งที่ได้ รู้จักแบ่งปัน เอื้อเฟื้อ และเห็นคุณค่าของชีวิต

ความสุขที่เริ่มต้นจากครอบครัวสามารถส่งต่อไปยังคนรอบข้างได้

แม่คนนี้จะมีแต่ความปรารถนาดีต่อลูกเสมอ ไม่ว่าจะสุขหรือจะทุกข์ เราจะก้าวไปด้วยกัน

Image