Image

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงขับรถยนต์พระที่นั่งมีย่าเหล สุนัขทรงเลี้ยง โดยเสด็จ
ภาพ : สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ

ย่าเหล
หนึ่งในความทรงจำอันโดดเด่น
ของสังคมไทยว่าด้วยสมัยรัชกาลที่ ๖ 
คือเรื่องของ “ย่าเหล”

๑๐๐ ปี วันสวรรคต
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

เรื่อง : ศรัณย์ ทองปาน

เรื่องเริ่มต้นขึ้นในปี ๒๔๔๘ เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะยังทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ ทรงตรวจราชการที่เรือนจำมณฑลนครไชยศรี ทอดพระเนตรเห็นลูกสุนัขพันทางสองตัว ตัวหนึ่งสีขาวด่างดำ
อีกตัวหนึ่งสีน้ำตาล ทรงต้องพระราชหฤทัยโปรดลูกสุนัขสีขาวด่างดำมาก พะทำมะรงหรือผู้ควบคุมนักโทษ คือหลวงชัยอาญา (โพธิ์ เคหะนันทน์ ปี
๒๓๙๒-๒๔๗๓ ภายหลังเป็นพระพุทธเกษตรานุรักษ์) จึงทูลเกล้าฯ ถวายลูกสุนัขทั้งคู่

Image

เมื่อพระองค์ทรงรับมาเลี้ยง พระราชทานชื่อลูกสุนัขสีขาวด่างดำว่า “จาร์เลต์” ส่วนอีกตัวหนึ่งพระราชทานชื่อว่า “ปอล” ตามนามของตัวละครหลัก เอมีล จาร์เลต์ (Emile Jarlet) และ ปอล ลาตูร์ (Paul Latour) จากบทละครภาษาอังกฤษเรื่อง My Friend Jarlet ที่เคยทรงร่วม
แสดงเมื่อครั้งยังประทับอยู่ในประเทศอังกฤษ และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้รับรู้เรื่องของ “ปอล”

สันนิษฐานว่าชื่อ “จาร์เลต์” (หรือที่คุณมหาดเล็กบางท่านเรียกว่า “ยาร์ดเลย์”) คงออกเสียงยาก ชาววังทั่วไปเรียกขานกันแบบไทย ๆ โดยแผลง จ เป็น ย ว่า “ย่าเหล”

ย่าเหลเป็นสุนัขฉลาดแสนรู้และช่างประจบ จึงเป็นที่โปรดปราน พระเจ้าอยู่หัวทรงมอบหมายให้มหาดเล็กดูแลเป็นอย่างดี  ย่าเหลจะคอยหมอบอยู่ใกล้ที่ประทับ หากเสด็จไปทรงพระอักษรหรือเสวยพระกระยาหารในเขตพระราชฐาน ย่าเหลก็จะตามเสด็จไปด้วยทุกครั้ง หากเห็นสิ่งใดหรือผู้ใดไม่ชอบมาพากลก็จะเห่าและตรงเข้ากัดทันที แม้ในยามเสด็จพระราชดำเนินเลียบมณฑล หรือเสด็จประพาสหัวเมืองต่าง ๆ หลายครั้งก็โปรดเกล้าฯ ให้ย่าเหลตามเสด็จไปด้วย

อนุสาวรีย์ย่าเหลหน้าพระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ พระราชวังสนามจันทร์ อันได้รับพระราชทานนามตามตัวละคร “จาร์เลต์” เช่นกัน
ภาพ : ศรัณย์ ทองปาน

วันหนึ่งในเดือนกรกฎาคม ๒๔๕๖ มีผู้พบศพย่าเหลทิ้งอยู่ในถังขยะของกรมศุขาภิบาลที่ถนนข้างวัดพระเชตุพน มีแผลถูกปืนยิง  หนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ตกเป็นจำเลยของสังคมมาช้านาน ได้แก่กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ (ปี ๒๔๒๓-๒๔๖๖) ทว่าพระยาหาญกลางสมุทร (บุญมี พันธุมนาวิน ปี ๒๔๓๓-๒๕๑๖) ผู้เป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดเสด็จในกรมฯ เคยให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าข่าวลือนี้เป็นเรื่องเหลวไหล และว่า “ในหลวงรัชกาลที่ ๖ ก็ไม่ทรงสงสัย”

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเศร้าสลดพระราชหฤทัยกับความตายของย่าเหลเป็นอย่างยิ่ง พระราชทานหีบทองประดับลายแกะสลักรูปย่าเหลให้บรรจุศพ แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำศพย่าเหลกลับไปจัดพิธีที่บ้านเกิด คือจังหวัดนครปฐม มีกระบวนแห่ศพจากพระราชวังสนามจันทร์ไปยังเมรุที่จัดสร้างขึ้นเป็นการเฉพาะ ณ วัดพระปฐมเจดีย์ นำขบวนโดยแตรวงของนักเรียนโรงเรียนมหาดเล็กหลวง  เมื่อนำหีบศพย่าเหลขึ้นตั้งบนจิตกาธานแล้วทรงจุดไฟพระราชทานเพลิงศพย่าเหลด้วยพระองค์เอง

โลงศพขนาดเล็กของย่าเหลยังคงเก็บรักษาอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของวัดพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม (ซึ่งห้ามถ่ายภาพ) ใครอยากเห็นลองแวะไปชมกันได้

ภายหลังงานพระราชทานเพลิงศพ ยังทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้อธิบดีกรมมหาดเล็ก คือพระยาเทพทวาราวดี (สาย ณ มหาไชย ปี ๒๔๑๓-๒๔๘๓ ภายหลังเป็นพระยาบำเรอบริรักษ์) นำส่งเงิน ๑,๕๖๑ บาท ๑๖ สตางค์ “ในนามของสุนัขก์ยาเหล” สำหรับบำรุงโรงพยาบาลปาสตุรสภา อันเป็นสถานที่รักษาโรคพิษสุนัขบ้า (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “สถานเสาวภา”) เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ “ย่าเหล” อีกด้วย

Image

แผ่นโลหะจารึกกลอนไว้อาลัย พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๖ ที่ฐานอนุสาวรีย์ย่าเหล
ภาพ : ศรัณย์ ทองปาน

อ้างอิง
แจ้งความกระทรวงมหาดไทยเรื่องให้เงินบำรุงปาสตุรสภาในนามของสุนัขก์ยาเหล. (๓ สิงหาคม ๒๔๕๖). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๓๐. หน้า ๙๐๓.

“เจ้าคุณหาญฯ เล่าเรื่อง” ใน ที่ระลึกพระราชพิธีเปิดพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ณ วิทยาลัยพณิชยการพระนคร ๑๙ ธันวาคม ๒๕๑๙. (๒๕๑๙). กรุงเทพฯ : มงคลการพิมพ์.

วรชาติ มีชูบท. (๒๕๖๑). ราชสำนักรัชกาลที่ ๖. กรุงเทพฯ : มติชน.

อนุสรณ์ “ศุกรหัสน์”. (๒๕๑๑). พิมพ์เนื่องในงานพระราชทานเพลิงศพ เสวกโท จมื่นมานิตย์นเรศ (เฉลิม เศวตนันทน์). พระนคร : โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย.