สร้างนิสัยการตื่น
ชีวิตเปลี่ยน
Holistic
เรื่อง : ภัสน์วจี ศรีสุวรรณ์
ภาพประกอบ : zembe
พวกเราล้วนมีกิจวัตรหรือนิสัยการตื่นนอนของตัวเอง บางคนเมื่อรู้สึกตัวก็ลุกขึ้นจากเตียงแบบไม่รีรอ บางคนกดปิดหรือเลื่อนนาฬิกาปลุกและนอนต่ออีกหลายนาที มีคนไม่น้อยที่หยิบโทรศัพท์มือถือมาตรวจเช็กความเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์เป็นสิ่งแรกและจมดิ่งอยู่กับหน้าจอนานหลายสิบนาที
แล้วคุณล่ะมีนิสัยการตื่นนอนอย่างไร
มีการศึกษาพบว่านิสัยการตื่นนอนเกิดจากปัจจัยหลายประการ คนที่ตารางเวลาหรือตารางชีวิตต่างจากคนทั่วไป เช่น คนทำงานกะกลางคืนหรือคนเกษียณมักนอนดึกตื่นสาย ส่วนคนที่มีบาดแผลทางใจ มีภาวะเครียด วิตกกังวล หรือซึมเศร้า มักจะมีภาวะทางกายและใจที่เชื่อมโยงกับการนอนหลับและรูปแบบการตื่นนอน ดังที่งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยอีมอรี (Emory University) ชี้ว่า ร้อยละ ๗๕ ของผู้มีภาวะซึมเศร้ามีปัญหาในการลุกจากเตียง รู้สึกร่างกายหนักอึ้ง ไม่อยากทำสิ่งใด ชอบนอนแช่อยู่บนเตียงและจมดิ่งกับปัญหาในชีวิต
ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองและพฤติกรรมบอกว่า ไม่ว่านิสัยการตื่นนอนจะมาจากปัจจัยใด เราสามารถออกแบบกิจวัตรยามเช้าที่สร้างเสริมพลังและอารมณ์ได้ตลอดทั้งวันและระยะยาวผ่านการทำให้เป็นนิสัย
เมล ร็อบบินส์ (Mel Robbins) ยูทูบ-เบอร์และนักเขียนชื่อดังด้านสุขภาพและพัฒนาตัวเองยอมรับว่า ก่อนหน้านี้เธอไม่ใช่คนตื่นเช้า แต่เมื่อสร้างกิจวัตรยามเช้าในรูปแบบที่ผ่านการยืนยันทางวิทยาศาสตร์ว่าดีต่อร่างกายและจิตใจ เธอก็บรรลุเป้าหมายชีวิต
เธอบอกว่ากิจวัตรยามเช้าไม่ใช่แค่ชุดกิจกรรม แต่คือการสร้าง “ระบบทรงพลัง” โดยหากระบบยามเช้าของคุณคือการนอนไถโทรศัพท์มือถือดูโซเชียลมีเดียไปเรื่อย ๆ ไม่กินอาหารเช้า และดื่มแต่กาแฟ นั่นคือระบบที่กำลังฉุดรั้งคุณไม่ให้บรรลุเป้าหมายในชีวิต ส่วนระบบที่ส่งเสริมพลัง มีตัวอย่างเช่น การลุกจากเตียงอย่างกระตือรือร้น การจัดเตียงให้เรียบร้อย ดื่มน้ำ ออกไปรับแสงแดดและเดินเล่นสั้น ๆ
ระบบดังกล่าวคือเราควบคุมวันเวลาเอง ไม่ใช่ปล่อยให้เหตุการณ์หรือความวุ่นวายจากภายนอกมาควบคุมตั้งแต่ลืมตาตื่น จะทำให้สมองปลอดโปร่ง “ใจเบา” ช่วยลดความวิตกกังวล ความเครียด ทำให้สมองมีพลังงาน กระตุ้นประสิทธิภาพการทำงาน มีสมาธิ และยังช่วยให้นอนหลับดีขึ้น
“กิจวัตรยามเช้าคือรากฐานสำคัญในการสร้างสรรค์เป้าหมายของเราให้เป็นจริง เป็นก้าวที่ทรงพลังที่สุดที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ในชีวิต ไม่ว่าคุณจะอยากมีความสุขขึ้น อยากมีรายได้มากขึ้น อยากมีรูปร่างที่ดีขึ้น หรืออยากมีสติมากขึ้น” เมล ร็อบบินส์ กล่าว
สร้างนิสัยการตื่น ๖ ประการ
เมล ร็อบบินส์ กล่าวว่า การสร้างกิจวัตรยามเช้าไม่ใช่เรื่องซับซ้อน แทนการตื่นแล้วไถโทรศัพท์ก่อนลุกขึ้นจากเตียง ลองใช้เวลาประมาณ ๑๕ นาที เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ทรงพลังได้ทั้งวัน หากทำเป็นนิสัยจะทำให้คุณกลายเป็นคนใหม่ที่กระตือรือร้นทุกวัน
๑. ลุกขึ้นทันทีที่นาฬิกาปลุกดัง ใช้กฎนับ ๕ คือนับถอยหลัง ๕-๔-๓-๒-๑ แล้วลุกจากเตียงเลย เป็น “การลงมือทำเล็ก ๆ” (micro-action) ที่ช่วยให้คุณตัดสินใจก่อนที่ความลังเลจะเข้าครอบงำ
งานวิจัยชี้ว่า การนอนแช่บนเตียงเพิ่มการหมกมุ่นครุ่นคิด ทำให้ภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวลแย่ลง นอกจากนี้ระดับฮอร์โมนเครียดหรือคอร์ติซอลซึ่งสูงสุดในตอนเช้าจะยิ่งทำให้คุณจมดิ่ง ส่งผลให้หดหู่ วิตกกังวล และขาดแรงจูงใจ
๒. จัดที่นอน วิธีนี้ช่วยตัดทางไม่ให้คุณกลับไปซุกใต้ผ้าห่มอีก รวมทั้งยังสร้างวินัยและฝึกฝนทักษะการทำสิ่งที่ต้องทำ ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไร เมื่อเตียงไม่รก สมองก็โปร่งโล่ง ลดความเครียดและความวิตกกังวล
งานวิจัยจาก Bond University ในออสเตรเลียระบุว่า สภาพแวดล้อมทางกายภาพมีผลมากต่อการรับรู้ อารมณ์ และพฤติกรรม ห้องรกและเตียงที่ไม่เป็นระเบียบอาจเพิ่มความวิตกกังวลและทำให้รู้สึกหดหู่
๓. ทักทายตัวเองในกระจก (hi 5) หลังแปรงฟันเสร็จ มองตัวเองแล้วยกมือทัก เพื่อบอกว่า “วันนี้ฉันพร้อมนะ” เป็นการฝึกสมองให้ตื่นตัว ช่วยสร้างนิสัยใหม่ให้เกิดเร็วขึ้น และสร้างความเชื่อมั่นในตัวเอง
งานวิจัยจาก UC Berkeley ศึกษาพฤติกรรมความสำเร็จของทีมบาสเกตบอล NBA พบว่า ทีมที่ยกมือทักทายและให้กำลังใจกันบ่อย ในช่วงต้นฤดูกาลมักจะมีผลงานดีที่สุดในตอนท้ายฤดูกาล เพราะช่วยสร้างความไว้วางใจ ยกกำลังใจ สื่อสารความมั่นใจ และเตือนว่าคุณชนะได้ร่วมกัน
๔. ดื่มน้ำเปล่าก่อนดื่มกาแฟ ร่างกายขาดน้ำมาทั้งคืนทำให้สมองล้า อ่อนเพลีย ปวดหัว และอารมณ์แปรปรวน ควรชะลอการดื่มกาแฟไปสัก ๑-๒ ชั่วโมงหลังตื่นนอน เพื่อให้สมองขับสารเคมี “อะดี-โนซีน” (adenosine) ที่ทำให้ง่วงนอนออกไป การดื่มกาแฟทันทีที่ตื่นนอนกาเฟอีนจะ “ดักจับ” อะดีโนซีนไว้ ผลก็คือประมาณ ๒ ชั่วโมงต่อมาคุณจะรู้สึกต้องการกาแฟแก้วที่ ๒ และเหนื่อยล้าในช่วงบ่าย
๕. รับแสงแดดยามเช้าสัก ๕-๑๐ นาที ลองใช้ “กฎ ๕-๑๐-๒๐” ของนักประสาทวิทยา แอนดรูว์ ฮูเบอร์แมน (Andrew Huberman) กล่าวคือ ๕ นาที หากแดดจ้า, ๑๐ นาที หากมีเมฆมาก และ ๒๐ นาที หากฝนตก หรือใช้แสงประดิษฐ์ถ้าไม่สามารถออกไปข้างนอกได้
ดร. รีเบกกา ร็อบบินส์ (Dr. Rebecca Robbins) ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านการนอนหลับย้ำว่า แสงแดดยามเช้าช่วยรีเซตนาฬิกาชีวภาพช่วยให้ร่างกายเข้าสู่โหมดตื่นตัว และที่สำคัญคือช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น
๖. เดินเล่น ๑๐ นาที การเดินสั้น ๆ จะช่วยเคลียร์สมอง ลดความกังวล และทำให้คุณอารมณ์ดีขึ้นทันที ใครไม่ค่อยมีเวลา อาจรวมการเดินเข้ากับการรับแสงแดดยามเช้าได้เลย
งานวิจัยชี้ชัดว่าการเดินเพียง ๑๐ นาทีเพิ่มปีในชีวิตได้และมีผลทันทีต่ออารมณ์ เช่น ช่วยกำจัดความรู้สึกหนักอึ้ง ความคิดฟุ้งซ่าน และความวิตกกังวล
เมล ร็อบบินส์ ยังแนะนำว่าหลังทำตามหกขั้นตอนนี้แล้ว ให้ใช้เวลา ๑๕ นาทีแรกกับโครงการสำคัญ เพราะเป็นช่วงที่สมองจดจ่อและมีแรงจูงใจ คุณจึงมีพลังพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงแล้วนั่นเอง