Image

จอมพล ป. พิบูลสงคราม
ในสภาผู้แทนฯ

PIC (พลิก) STORY

เรื่อง : สุเจน กรรพฤทธิ์   
ภาพ : หอจดหมายเหตุแห่งชาติ

เห็นการเมืองไทยช่วงต้นเดือนกันยายน ๒๕๖๘ ที่ผู้คนถกกันหน้าดำคร่ำเครียดเรื่องนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่จะต้องมากุมบังเหียนประเทศ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องยุบสภาภายใน ๔ เดือน ต่างคนต่างกังวล ระแวงอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ ฯลฯ  ทำให้นึกถึงภาพเก่าใบหนึ่งที่ผมได้มาจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติเมื่อหลายปีก่อน

เป็นภาพจอมพล ป. พิบูลสงครามที่เราไม่คุ้นตา เพราะ “ภาพจำ” ของนักการเมืองท่านนี้คือ “ท่านผู้นำ” ที่แต่งเครื่องแบบนายทหาร ห้อยกระบี่ สวมรองเท้าบูตสูงถึงเข่ายืนตัวตรงเป๊ะ มาดเข้ม

แต่ในภาพนี้ จอมพล ป. กลับอยู่ในชุดสูทสีขาว ยืนอ่านแถลงการณ์อะไรสักอย่าง ซึ่งในภาพก็ไม่ได้ให้รายละเอียดใด ๆ สันนิษฐานได้เพียงว่าน่าจะเป็นช่วงของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยแรก (ปี ๒๔๘๑-๒๔๘๗) โดยน่าจะเป็นช่วงที่ลุกขึ้นแถลงต่อสภาผู้แทนราษฎร

คนรุ่นหลังอาจนึกไม่ออกว่าสถานที่ในภาพคือพระที่นั่งอนันตสมาคม ซึ่งในช่วงหลังการอภิวัฒน์ ๒๔๗๕ เคยใช้เป็นที่ประชุมรัฐสภาอยู่หลายปี

ภาพเก่าใบนี้ยังเล่าด้วยว่า นอกจากตำแหน่งไมโครโฟนแบบขาตั้งที่จอมพล ป. ยืนพูดอยู่ ที่ประชุมรัฐสภาไทยสมัยก่อนยังใช้ไมโครโฟนแขวนแบบเดียวกับรัฐสภาอังกฤษ (ที่ยังคงใช้มาจนถึงปัจจุบัน)

ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ชื่อว่าเป็นคณะราษฎรสายทหาร เป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดคือ ๑๕ ปี (ปี ๒๔๘๑-๒๔๘๗ และปี
๒๔๙๑-๒๕๐๐) เป็นแกนนำคณะราษฎรที่ได้รับการศึกษาวิจัยมากที่สุดคนหนึ่งจากนักประวัติศาสตร์รุ่นหลัง ทั้งในฐานะผู้สร้างประชาธิปไตย แต่ในบางห้วงขณะเขาก็เอนเอียงไปในแนวทางทหารนิยม

ปี ๒๕๖๘ ประชาธิปไตยไทยมีอายุครบ ๙๓ ปี--ยังเยาว์นัก
เมื่อเทียบกับอังกฤษที่เริ่มระบบนี้มาก่อนหน้าหลายศตวรรษ

คนในภาพเคยกล่าวไว้เมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๔๘๓ ว่า “ในชั่วชีวิตเรา บางทีลูกเราด้วย จะต้องรบกันไปอีก และแย่งกันในระบอบเก่ากับระบอบใหม่นี้”

คงเป็นจริงดังประโยคข้างต้น