พื้นที่โดยรอบแบ่งเป็นสองส่วนคือ “จัดแสดงงูกลางแจ้ง” รายล้อมบ่อและตู้เลี้ยงงูสารพัดให้ดูเพลินตา ทั้งงูสายพันธุ์ไทยอย่างงูสายรุ้งธรรมดา งูหัวกะโหลก-ไทย งูลายสอ งูสิงหางลาย ฯลฯ และงูต่างชาติอย่างงูคอร์นแดง (corn snake), งูเหลือมคอนสตริกเตอร์ (boa constrictor) ลวดลายคล้ายอานม้าสีน้ำตาล, งูจมูกหมู (western hognose snake) สีน้ำตาลอ่อนแต้มสีน้ำตาลเข้ม, งูหลามบอล (ball python) ที่เมื่อตกใจจะขดตัวเป็นก้อนกลมสีดำตัดสีน้ำตาลอ่อน, งูหลามขอบปากขาว (white-lipped python) ที่ยามสะท้อนแดดจะเงาแวววาวเหมือนสีรุ้ง ฯลฯ

ขณะเดินชมตามเส้นทางบนสะพานไม้ยังได้สดชื่นไปกับพืชพรรณร่มรื่นที่จำลองบรรยากาศให้สอดคล้องกับการดำรงชีวิตงู พร้อมนิทรรศการความรู้เกี่ยวกับงูสายพันธุ์ต่าง ๆ ยังมี “อัฒจันทร์แสดงการจับ-รีดพิษงู” ที่เปิดตามรอบเวลา พร้อมให้เกร็ดความรู้การป้องกัน-รักษาจากการถูกงูกัด และให้ผู้ชมถ่ายรูปกับงูได้อย่างใกล้ชิด

เริ่มอินแล้วจะอยากรีบเข้า “ตึก ๔ มะเสง” อาคารพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเนื้อหาเชิงวิชาการ ออกแบบบรรยากาศภายในให้เย็น-แสงสลัว สร้างความรู้สึกให้ผู้มาเยือนคล้ายกำลังลอดเข้ารัง-โพรงรกครึ้มสู่ “บ้านของงู” ทำความรู้จักกับงูมีชีวิตทั้งพันธุ์แปลก บ้างมีเฉพาะถิ่น อย่างงูกะปะ งูเห่าภูเขา งูเขียวปากแหนบงูเขียวกาบหมาก ฯลฯ แล้วตื่นตาต่อด้วยโครงกระดูก กายวิภาค ชีววิทยา ตู้ฟักไข่ ฯลฯ

ชอบสุดยกให้การจัดแสดง “เกล็ดงู” ที่สวยมาก ภายในเกล็ดมีเม็ดสีที่เห็นสีสัน ลวดลาย และงูก็อาศัยสิ่งนี้พรางตัว เกล็ดของงูแต่ละชนิดมีคุณสมบัติสะท้อนแสงต่างกัน อย่างงูแสงอาทิตย์ น่าสนใจที่ปรกติจะเห็นเป็นสีดำขลับ ครั้นต้องแสงอาทิตย์กลับสะท้อนเป็นสีรุ้งแวววาว

เหมาะดีกับผู้สนใจเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ สัมผัสความรู้จากของจริง

ซุกอยู่ตรงไหนของพิพิธภัณฑ์...ต้องมาดู  

สวนงู สถานเสาวภา สภากาชาดไทย

๑๘๗๑ ถนนพระรามที่ ๔ เขต/แขวงปทุมวัน กรุงเทพฯ ๑๐๓๓๐

เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา ๐๙.๓๐-๑๕.๓๐ น.
เสาร์-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์
เปิดถึง ๑๓.๐๐ น.

ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ ๔๐ บาท
(ต่างชาติ ๒๐๐ บาท) 
เด็ก ๑๐ บาท (ต่างชาติ ๕๐ บาท)
โทร. ๐-๒๒๕๒-๐๑๖๑