เที่ยวบ้าน “กะเหรี่ยงโผล่ง”
เทือกเขาตะนาวศรี
Hidden (in) Museum
เรื่องและภาพ : สุชาดา ลิมป์
นอกจากคนไทยพื้นถิ่น ราชบุรียังเป็นถิ่นอาศัยหลากชาติพันธุ์
อย่างไทยวน ไทยทรงดำ (ลาวโซ่ง) ลาวเวียง เขมร มอญ และกะเหรี่ยง (ทั้งปกาเกอะญอและโผล่ง) มีโอกาสเยือนบ้านพุหวาย ตำบลยางหัก อำเภอปากท่อ ชุมชนชาว “กะเหรี่ยงโผล่ง” ในป่าหุบเขาตะนาวศรีที่แยกตัวจากบ้านหินสีในตำบลเดียวกันมาตั้งอยู่ใกล้ป่าชุมชนที่ได้รับจัดสรรเป็น “โซนวัฒนธรรม ๑๙ ไร่”
ปี ๒๕๕๗ นักวิชาการจากกระทรวงวัฒนธรรมเข้ามาส่งเสริมให้ใช้พื้นที่ในป่าชุมชนจัดตั้ง ศูนย์วัฒนธรรมไทย-กะเหรี่ยงบ้านพุหวาย เพื่อให้คนนอก-คนในใช้เป็นสถานเรียนรู้วิถีถิ่นและพื้นที่จัดกิจกรรมฟื้นฟูวัฒนธรรม-ประเพณีสำคัญที่สูญหายให้กลับมีชีวิต
น่าสนใจการตั้งพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ศาลา เจดีย์ ต้นโพ และเสาหงส์ (สี่สิ่งที่ทุกหมู่บ้านกะเหรี่ยงโผล่งต้องมี - ศาลาเป็นที่สถิตดวงวิญญาณผู้ล่วงลับ, สถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ, ต้นโพคือที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และเสาหงส์เป็นสัญลักษณ์อิทธิพลของพุทธที่รับจากมอญ) สำหรับประกอบพิธีสำคัญในรอบปี อย่างประเพณี “ไกร่ก่อง (เวียนศาลา)” เมื่อถึงวัน “ก่องโปะติ่ง” ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๕ สงกรานต์ของชาวโผล่งจะก่อกองทรายรอบ “ก่อปะตึย (พุ่มดอกไม้)” หรือ “ประเพณีการแห่ต้นทะเดิ่ง” ในวัน “ทะเดิ่ง” ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ (ออกพรรษา) ชาวบ้านจะรวมตัวทำพุ่มดอกไม้วางรอบเจดีย์และมีการเดินวนรอบเจดีย์
ใกล้กันมี เรือนกะเหรี่ยง เรือนไม้ยกพื้นสูงรูปแบบดั้งเดิมแบ่งเป็นสามส่วนหลัก คือ โถง ห้องใน และห้องครัว บ้านที่มีลูกสาว ลูกจะนอนอยู่ห้องใน พ่อแม่นอนบริเวณโถง บ้านที่มีลูกชาย ลูกจะนอนที่โถง ส่วนพ่อแม่นอนห้องใน โดยห้องครัวบนเรือนจะมีผนังกั้น (เสียดายที่ไม่ได้จำลองวิถีครัวไฟซึ่งชาวกะเหรี่ยงจะใช้กระบะดินมีก้อนเส้าในการประกอบอาหาร)
ข้างบ้านคือที่ตั้ง พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น แสดงเครื่องจักสานไม้ไผ่ เครื่องใช้ฝีมือหนุ่มกะเหรี่ยงอย่างหน้าไม้ที่ใช้ล่าสัตว์, ขาหยั่งสำหรับแอบย่องขึ้นบ้านสาว, หวูกไว้สะพายของหนักโดยใช้สายเทินหัว ฯลฯ และไม่ลืมเรื่องการทอผ้า งานอวดฝีมือหญิงกะเหรี่ยง ทั้งวิธีทอและลวดลายอันเป็นอัตลักษณ์ อย่างเสื้อ ผ้าถุง ย่าม ผ้าโพก ผ้าห่ม ที่ไม่เพียงสวยงามแต่ยังให้ความสำคัญกับความหนา เพราะพวกเขาอาศัยในป่าที่มักมีอากาศหนาวเย็น ดั้งเดิมจะใช้ “กี่เอว” ซึ่งได้ผ้าทอหน้าแคบ (ยังใช้จริงตามบ้าน มีสาธิตที่ศาลาของศูนย์วัฒนธรรมฯ หากหมู่คณะมาเยี่ยมเยือน) ต่อมามีหน่วยงานมาอบรมและจัดสรรกี่ทอผ้าขนาดใหญ่สองหลัง ให้ชาวชุมชนได้ใช้ประโยชน์จริง (มีชาวบ้านมาใช้เสมอจนเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต) ทำให้ได้ผ้าหน้ากว้างขึ้น แต่ยังคงสีสันสว่างสดใส อย่างอั่ว (ขาว), โว (แดง), บ่าง (เหลือง) และยี่ (เขียว) เน้นลายริ้วสีตามลักษณะผ้าทอแบบกะเหรี่ยงที่นิยมรูปทรงเรขาคณิต อย่าง “ลายอ่องกึ้ย (ลายจก)” จะจกเต็มพื้นที่ให้มีความนูนชัด กับ “ลายอ่องทา (ลายยกดอก)” ทอเป็นเส้นนูนตามแนวตั้ง ใช้เป็นลายเสริม
ครั้นมีแต่ขนบเก่าแก่ วันหนึ่งก็อาจขาดช่วงอีก “มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี วิทยาเขตราชบุรี” จึงขอทุนสนับสนุนจาก “หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.)” ศึกษาทุนทางวัฒนธรรมแล้วปรับองค์ความรู้ให้หนุ่มสาวโผล่งรุ่นใหม่มีส่วนช่วยพัฒนาเทคนิคหัตถกรรม มาที่นี่จึงได้เห็นผลิตภัณฑ์รูปแบบร่วมสมัยที่คนรุ่นใหม่ทดลองสืบสานภูมิปัญญาด้วย
ศูนย์การเรียนรู้ที่อื่นอาจจำเป็นต้องจัดหาสิ่งจำลอง แต่ที่นี่ทุกสิ่งจัดแสดงคือของจริง
ซุกอยู่ตรงไหนของ
พิพิธภัณฑ์...ต้องมาดู
ศูนย์วัฒนธรรมไทย-กะเหรี่ยงบ้านพุหวาย
ป่าชุมชน หมู่ที่ ๔ ตำบลยางหัก
อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ๗๐๑๔๐
เปิดทุกวัน ต้องติดต่อล่วงหน้า โทร. ๐๘-๐๘๕๕-๑๘๓๘