ศิลปะ
จากบรรณาธิการ
ฝนตกพรำๆ ในกรุงลอนดอน สาวร่างเพรียวตัวสูงถือร่ม รุดเดินเข้าไปถามสาวพนักงานร้านขนมปังที่กำลังขนของเดินเข้าร้าน
“ขอโทษนะคะ ขอถามสักคำถามเกี่ยวกับศิลปะได้ไหม” ผู้ถูกถามยิ้มอาย ๆ และพยักหน้า
“ถ้าสามารถเป็นเจ้าของงานศิลปะในโลกนี้สักชิ้นหนึ่ง จะเป็นงานชิ้นไหน และทำไม”
“อืม ยากจัง...ฉันชอบภาพ Water Lilies ของโมเนต์ที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ออร์เซ (ฝรั่งเศส) ฉันอยากได้ห้องแสดงภาพนั้นทั้งห้องเลย” (ภาพตัดมาที่ห้องวงกลมที่มีภาพโมเนต์ติดเต็มผนังยาว)
“เป็นคำตอบที่น่ารักมากค่ะ แล้วคุณคิดว่าจะเก็บภาพไว้เองหรือเอาไปวางไว้ที่ไหนหรือเปล่า”
“ฉันคิดว่าจะสวยงามมาก ถ้าได้ไปอยู่นอกเมือง ไว้กลางสภาพแวดล้อมอันเงียบสงบ”
...
นี่เป็นหนึ่งในคลิปสัมภาษณ์คนทั่วไปของช่องออนไลน์ My Art Broker ซึ่งการสุ่มเลือกผู้ถูกสัมภาษณ์นั้นหลากหลาย ทั้งวัยรุ่น คุณแม่ คนทำงาน นักท่องเที่ยว ผู้สูงวัย ทุกคนมีคำตอบที่แทบจะไม่ซ้ำกันเลย ทั้งงานจิตรกรรม ประติมากรรม และอาจเป็นผลงานของศิลปินดังระดับโลกที่หลายคนต้องรู้จักอย่างโมเนต์ ไปจนถึงคนที่เอ่ยชื่อมาแล้วคนไทยไม่คุ้นหู
เมื่อพิธีกรถามว่าทำไมถึงชอบงานชิ้นนั้น แม้คำตอบจะต่างกันแต่สิ่งที่มักมีร่วมกันคือรายละเอียดที่เห็นในภาพ กับความรู้สึกที่มีต่องานศิลปะชิ้นนั้น บางคนอาจอธิบายไม่ได้ รู้แต่ว่าภาพนั้นทำให้เขาตะลึงงัน
ตอนชมคลิปสัมภาษณ์รายการนี้ ผมรู้สึกทึ่งกับผู้ถูกสัมภาษณ์เกือบทุกคน มิใช่ว่าคำตอบนั้นฟังดูมีภูมิรู้ทางศิลปะสูงส่ง แต่เป็นคำตอบที่มาจากความรู้สึกภายใน มาจากสิ่งที่เคยเห็นและจดจำได้จากตัวงาน
นึกว่าถ้าเราเป็นผู้ตอบ จะตอบอะไร จะมีงานศิลปะชิ้นไหนประทับแน่นในความรู้สึก ที่เราอยากหยิบมาเป็นคำตอบ
ตั้งแต่เด็ก ชั่วโมงเรียนศิลปะของเด็กไทยคือการวาดภาพหรือทำงานศิลปะตามกรอบรูปแบบที่ครูกำหนดไว้ให้ โตขึ้นมาหน่อยในชั่วโมงเรียนอารยธรรมหรือประวัติศาสตร์ ก็เป็นการท่องจำชื่อยุคสมัยทางศิลปะ ชื่อศิลปิน ชื่อผลงานชิ้นเอก สำหรับตอบข้อสอบ และมักลืมไปทันทีหลังชั่วโมงสอบ
ทุกวันนี้ในชั่วโมงศิลปะ เราเปิดให้มีบทสนทนาแลกเปลี่ยน ให้เด็กสะท้อนความรู้สึกเมื่อมองงานศิลปะสักชิ้นหนึ่ง ว่าเห็นอะไรในภาพ สิ่งนั้นทำให้รู้สึกอย่างไร อยากตั้งคำถามอะไรกับสิ่งที่เห็นที่รู้สึกบ้างหรือไม่ ผมไม่แน่ใจ
การชื่นชมงานศิลปะ ความรู้สึกของผู้ชมและสิ่งที่เห็น ไม่มีถูก หรือผิด ไม่มีครู ไม่มีผู้เชี่ยวชาญศิลปะคนใดจะมาตัดสินหรือบังคับว่าเราต้องรู้สึกอย่างไร
เชื่อว่าผู้ถูกสัมภาษณ์ในกรุงลอนดอนนั้นเติบโตมากับห้องเรียนที่ต่างจากโรงเรียนในเมืองไทยอย่างแน่นอน
ศิลปะพัฒนาและงอกงามไปตลอด เพราะมีผู้ชมที่สนุกกับการชมงาน เกิดความรู้สึก เกิดการตั้งคำถาม ซึ่งมีส่วนผลักดันให้ศิลปินสร้างสรรค์งานใหม่ ๆ
ชวนเปิดอ่าน สารคดี ฉบับนี้ กับเบื้องหลังศิลปะภาพแนว botanical art และถ้ามีเวลาว่าง ก็ชวนไปชมงานนิทรรศการภาพวาดพฤกษศาสตร์นานาชาติ ครั้งที่ ๒ Botanical Art Worldwide 2025 ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ ๖-๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๘
หากมีคนเดินเข้ามาถามคุณว่า
“ถ้าสามารถเป็นเจ้าของงานศิลปะในโลกนี้สักชิ้นหนึ่ง จะเป็นงานชิ้นไหน และทำไม”
จะตอบว่าอะไร
สุวัฒน์ อัศวไชยชาญ
บรรณาธิการบริหารนิตยสารสารคดี
suwatasa@gmail.com
ฉบับหน้า :
รอยดำรง ย้อนอีสาน
ผ่านภาพถ่าย