Image

“ของขวัญบัณฑิต”
จากแดนลอดช่อง

Souvenir & History

เรื่อง : สุเจน กรรพฤทธิ์
ภาพ : ประเวช ตันตราภิรมย์
ภาพประกอบ : ไพลิน จิตรสวัสดิ์

ต้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๗ ผมมีโอกาสไปร่วมงานรับปริญญาบัตรของ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (National University of Singapore - NUS)

ทำให้เห็นบรรยากาศที่เหมือนและต่างจากงานรับปริญญาบัตรของไทยหลายเรื่อง

เรื่องแรก งานรับปริญญาบัตรที่นี่ไม่มีการปิดถนนรอบมหาวิทยาลัย แต่ทางมหาวิทยาลัยบริหารจัดการจำนวนคนที่เข้าร่วมงานโดยแยกงานแจกปริญญาบัตรเป็นหลายวันและเป็นรายคณะ ผู้แจกปริญญาบัตรก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล คืออธิการบดีหรือตัวแทน โดยมีอาจารย์ของแต่ละคณะนั่งเป็นสักขีพยานบนเวทีด้วยบรรยากาศเป็นกันเอง

เรื่องที่ ๒ ญาติพี่น้องของบัณฑิตมีโควตาเข้าหอประชุมร่วมพิธีรับปริญญาบัตรได้สองคน ที่นั่งจะถูกจัดไว้ด้านหลังสุด
แยกจากโซนที่นั่งของบัณฑิต บัณฑิตชาวสิงคโปร์มักยกโควตานี้ให้คนในครอบครัว ทั้งนี้ยังมีการจับฉลากที่นั่งพิเศษสำหรับคนที่อยากเชิญญาติสามคน เพราะบัณฑิตบางคนไม่ได้ใช้สิทธิ์เต็มโควตา จึงยังเหลือจำนวนที่นั่งบางส่วน

Image

เรื่องที่ ๓ การรับปริญญาบัตรในสิงคโปร์ไม่ใช่พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ ด้วยแนวคิดว่าเป็นขั้นตอนสำคัญของชีวิตจึงให้บัณฑิตมีส่วนร่วม เช่น มีตัวแทนบัณฑิตที่จบการศึกษารวมถึงนักศึกษาที่ได้รับรางวัลเรียนดีขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ แต่ไม่ได้ถึงขนาดเชิญผู้มีชื่อเสียงมากล่าวปัจฉิมนิเทศแบบในสหรัฐอเมริกา 

พิธีมอบปริญญาบัตรในหอประชุมเริ่มจากเปิดวีดิทัศน์คำอวยพรของผู้บริหารมหาวิทยาลัย จากนั้นอาจารย์ทุกคนของคณะขึ้นไปนั่งบนเวที มีการขานชื่อบัณฑิตออกไปรับปริญญาบัตรตามลำดับจากปริญญาเอก โท และตรี ใช้เวลาราว ๑.๓๐ ชั่วโมง จากนั้นเป็นขั้นตอนการกล่าวสุนทรพจน์ของตัวแทนบัณฑิต ประธานในพิธีกล่าวปิดงาน มีการปล่อยลูกโป่งสีน้ำเงินและสีส้ม (สีประจำมหาวิทยาลัย) หลายร้อยลูกลงมาจากเพดาน ท้ายสุดคือเปิดเพลงชาติสิงคโปร์ เป็นอันจบพิธี  ขั้นตอนที่ฉุกละหุก ปิดท้ายคือเจ้าหน้าที่จะรีบเชิญบัณฑิตและญาติ (ที่อ้อยอิ่งถ่ายภาพ) ออกจากหอประชุมเพื่อเตรียมสถานที่สำหรับคณะอื่นต่อไป

ตามสไตล์สิงคโปร์ที่เป็นทุนนิยม ช่างภาพที่มหาวิทยาลัยจ้างจะอยู่ในจุดถ่ายภาพที่ดีที่สุดในหอประชุม ดังนั้นใครอยากได้ภาพที่ดูดีก็ต้องดาวน์โหลดไฟล์ในภายหลัง พร้อมจ่ายเงิน ๒๐ ดอลลาร์สิงคโปร์

หลังจากนั้นบัณฑิตแยกย้ายกันไปถ่ายภาพในพื้นที่มหาวิทยาลัย ไม่มีการถ่ายภาพรวมของคณะ ทุกอย่างตามแต่ใจบัณฑิต บางคนก็หยิบลูกโป่งกลับบ้านเป็นที่ระลึก บ้างก็ซื้อตุ๊กตาสิงโต (LiNUS มาสคอตมหาวิทยาลัย) เป็น “กิมมิก” (gimmick) ถ่ายรูปขณะที่ส่วนอื่นของมหาวิทยาลัยมีการเรียนการสอนตามปรกติ

ของที่ระลึกที่บัณฑิตทุกคนได้รับจากพิธีนี้คือ คุกกี้ช็อกโกแลตชิปยี่ห้อเฟมัสเอมอส (Famous Amos) ร้านเก่าแก่ของ สิงคโปร์  หนังสือเล่มเล็ก ๆ เรื่อง Traditions of Commencement เล่าประวัติความเป็นมาของพิธีรับปริญญาบัตรที่ผูกพันกับการเติบโตของประเทศและวิวัฒนาการชุดครุย ซึ่งเป็นที่รู้กันในหมู่บัณฑิตว่าผูกขาดโดยร้านหนึ่งและมันไม่ใช่ของศักดิ์สิทธิ์โดยสิ้นเชิง จะใส่ถ่ายแบบไหนก็ตามใจบัณฑิตเพราะจ่ายเงินซื้อแล้ว (ฮา)

สำหรับผมนี่คืองานรับปริญญาบัตรที่ใช้เวลาน้อย เรียบง่าย มีสาระ ออกมาจากงานแล้วรถไม่ติด ไม่ต้องแย่งกันหาที่กินข้าวเพราะมีการจัดการอย่างดี แถมของที่ระลึกก็กินได้ (คุกกี้) และเก็บได้ (หนังสือ)

เป็นคนละบรรยากาศกับงานรับปริญญาบัตรในเมืองไทยโดยแท้