นก
จากบรรณาธิการ
มองจากหน้าต่างบ้านผม ห่างไปสัก ๕๐ เมตร จะเห็นเรือนยอดของชมพูพันธุ์ทิพย์ต้นสูงใหญ่แผ่กิ่งก้านเหนือหลังคาบ้านในซอยด้านหลัง
เช้า ๆ บางวันผมจะมายืนดูว่ามีนกอะไรมาเกาะ สำหรับคนที่ดูนกมาพอสมควรจะบอกได้จากรูปทรงตะคุ่ม ๆ โดยไม่ต้องใช้กล้องดูนกหรือกล้องสองตาช่วย ว่าเป็นนกเขาเปล้าหรือนกตีทอง ปรกติก็จะเห็นสองชนิดนี้มาเกาะตัวสองตัวแล้วบินหายไป
แต่มีเช้าวันหนึ่งที่พอตื่นมาก็รู้สึกสะกิดใจว่าต้องขอมาเฝ้าดูเรือนยอดนี้ก่อนจะไปทำอย่างอื่น
วันนั้นเป็นช่วงปลายปีที่ชมพูพันธุ์ทิพย์กำลังออกดอกสีชมพูบานเต็มต้น บนยอดกิ่งก้านสูงมีนกตีทองและนกเขาเปล้ามาเกาะกันอยู่แล้วหลายตัวกลางแดดอ่อน ๆ ดูอยู่ไม่นานนกอีกสามสี่ชนิดก็บินมาเกาะกิ่งต่ำลงมาหน่อย ผมรีบเอากล้องสองตามาส่องเพื่อความชัดเจน ก็พบว่าเป็นนกปรอดหน้านวล นกปรอดสวน และนกกางเขน
ไล่ส่องกล้องดูตามพุ่มตามกิ่งต่าง ๆ ไปก็จ๊ะเอ๋กับนกกาเหว่าสีดำยืนแอบในเงามืด สักพักมีนกกิ้งโครงคอดำบินมาใกล้ตรงนี้แล้วกระโดดเข้าไปข้างในพุ่มรก และยังตามมาด้วยนกเอี้ยงหงอนอีกตัวที่มาจับกิ่งสูงขึ้นไปกลางแดด
เหมือนละครที่ปล่อยตัวประกอบต่าง ๆ ออกมาก่อน เพราะจังหวะต่อไปพระเอกก็บินโฉบมาเกาะปลายกิ่งสุดด้านซ้ายมือของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ให้ผมต้องร้องว้าว มันคือนกขมิ้นท้ายทอยดำตัวใหญ่สีเหลือง แต่ตัวนี้ยังเป็นนกวัยรุ่น สีจึงยังไม่เหลืองอ๋อยเหมือนตัวเต็มวัย และแถบคาดตายังเป็นสีดำจาง ๆ
มันโชว์ตัวแค่พักเดียวก็กระพือปีกบินไปทางซ้ายหายลับไปเลยไม่กลับมาอีก
สายโฉบรวดเร็วยังมีอีกสองชนิด แต่เป็นนกตัวเล็กมาก คือนกกินปลีอกเหลืองทั้งตัวผู้และตัวเมียที่สีสันต่างกัน กับนกสีชมพูสวน ชอบบินเร็วมาเกาะกิ่งหนึ่งแล้วก็รีบแว่บไปจับกิ่งอื่น สองชนิดนี้เห็นชัดเจนว่ามันใช้ปากเจาะตามดอกชมพูพันธุ์ทิพย์เพื่อกินน้ำหวาน
บนฉากสีชมพูอันตระการตา มีตัวแสดงหลักคือนกตีทองกับ
นกเขาเปล้าที่เกาะนานไม่ไปไหน ส่วนชนิดอื่น ๆ ก็บินเข้าบินออกผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปมาคึกคัก แต่ขณะหนึ่ง ๆ ก็จะมีนกไม่น้อยกว่า สามถึงสี่ชนิด
มีจังหวะพิเศษที่ตลกดี คือนกเกือบทุกตัวยืนนิ่งหันหน้าไปทางเดียวกันหมดเพื่อรับแดดที่ฉายมาจากพระอาทิตย์
การแสดงใกล้จบเมื่อแสงแดดแรงกล้าขึ้นเรื่อย ๆ นกต่าง ๆ พากันทยอยบินจากไป จนเหลือแต่กิ่งก้านเปลือยเปล่าและดอกไม้สีชมพูที่สั่นไหวยามต้องลม
กระรอกสีน้ำตาลไต่ขึ้นมาตามลำต้นให้เห็นเป็นความเคลื่อนไหวสุดท้าย ราวกับตัวละครที่มาช่วยปิดม่าน
ผมจดบันทึกและวาดภาพไว้ในสมุดบันทึก นับจำนวนนกได้ ๑๑ ชนิดในเวลาราวครึ่งชั่วโมงเท่านั้นของการสังเกต ถือเป็นการรวมพลนกมากที่สุดบนต้นชมพูพันธุ์ทิพย์-เท่าที่ผมเคยสังเกตเห็น เนื่องจากผมไม่ได้เฝ้าดูทุก ๆ วัน
เหตุการณ์นี้ผ่านมา ๒-๓ ปีแล้วแต่ยังประทับอยู่ในความทรงจำเสมอ
ครั้งหนึ่งได้ไปวิ่งออกกำลังกายแถวซอยข้างหลังบ้านที่มีต้น
ชมพูพันธุ์ทิพย์ต้นนั้น มันเป็นพื้นที่เล็ก ๆ ไม่กี่ตารางวาแทรกอยู่ระหว่างบ้านสองหลัง เหมือนที่รกร้างแต่ไม่ว่างเปล่าเพราะมีกอไผ่และต้นไม้ขนาดกลาง ๆ อีกสองสามต้น
ที่นี่เปรียบเสมือนเขตอนุรักษ์ธรรมชาติขนาดจิ๋วกลางเมืองใหญ่ ซึ่งผมเชื่อว่ายังมีอีกมากมายหลายที่ เพียงแต่จะมีใครเห็น
ใครเป็นเจ้าของพื้นที่ ใครเป็นเจ้าของต้นไม้ นกคงไม่สนใจ จนถึงวันหนึ่งที่ต้นไม้หายไปเพราะถูกโค่น ด้วยเจ้าของอาจโดนภาษีที่ดินบังคับให้ปลูกกล้วยหรือทำประโยชน์อื่น ๆ ในเมื่อทุกตารางเมตรล้วนถูกตีราคากลางป่าคอนกรีต
พวกมันคงหายตัวไปจากบริเวณนั้น ไปหาที่พักพิงใหม่ที่หายากขึ้นเรื่อย ๆ แต่มีใครกังวลไหม หรือแค่ว่ามีใครรับรู้
เช่นเดียวกับฉากธรรมชาติในเช้ามหัศจรรย์ที่ผมเล่ามา ก็อาจไม่มีความหมายหรือมีความสำคัญใด ๆ กับใครเลย
จนกว่าคุณจะลองดูนกใกล้ ๆ ตัวบ้าง เริ่มตื่นเต้นอยากรู้บ้างว่านกที่เห็นเป็นชนิดอะไร กำลังทำอะไร หรือมันจะไปไหน
และถ้ามีโอกาสหลับตาฟังเสียงร้องเพลงเจื้อยแจ้วของนกตอนเช้าตรู่
ตัวแทนธรรมชาติที่อยู่ใกล้ตัวมนุษย์ที่สุดจะกระซิบบอกคุณเองว่า ธรรมชาตินั้นสำคัญต่อมนุษย์เพียงใด
สุวัฒน์ อัศวไชยชาญ
บรรณาธิการบริหารนิตยสารสารคดี
suwatasa@gmail.com
ฉบับหน้า : แกะรอยแผนที่
ภาพ : บันสิทธิ์ บุณยะรัตเวช