Image
ท้ายครัว
เรื่องและภาพ : กฤช เหลือลมัย
เวลาปั่นจักรยานไปตามเส้นทางชนบทเล็กๆ พวกสายปั่น-เก็บ-กิน ก็มักคอยแต่จะเห็นต้นไม้ใบหญ้า บรรดาไม้แดก ทั้งล้มลุกและยืนต้นกันอยู่ตลอดเวลานะครับ ผมเองเคยผ่านไปหน้าวัดคงคาราม ริมน้ำแม่กลองเขตโพธาราม ราชบุรี หน้าวัดมีสมอไทยต้นใหญ่ เนื้อผลกรอบหวาน มัน เป็นสมอที่อร่อยมากต้นหนึ่งเท่าที่เคยพบระหว่างทาง
Image
สมอเป็นผลไม้รสขมอมหวาน มีสรรพคุณทางยาสำคัญๆ ถึงกับเป็นส่วนผสมหนึ่งใน “ตรีผลา” ยาอายุวัฒนะของแพทย์แผนไทย คนโบราณชอบกินผลสดกับน้ำพริกกะปิบ้าง ตำกับกบย่างเป็น “กบตำสมอ” บ้าง เปรี้ยวปากมากๆ จิ้มเกลือกินเปล่าๆ ก็ยังได้ จะรู้สึกว่ากินแล้วชุ่มคอ ทั้งยังแก้กระหายน้ำได้ดี

บางทีเราอาจปั่นผ่านต้นสมอใหญ่ๆ แล้วเห็นลูกร่วงเยอะแยะจนอดเก็บมาไม่ได้ ทีนี้จะ ทำอะไรสนุกๆ กินดีล่ะ ?
Image
ถ้าเราเป็นนักปั่นที่พกหม้อสนาม เตาแก๊สเล็กอยู่แล้ว พอผ่านตลาดสดก็แวะซื้อกะทิ กล่อง พริกแกงเผ็ด เนื้อสัตว์ที่อยากกิน หรือว่าง่ายกว่านั้น ที่ผมเคยทำคือแช่ปลาหมึกแห้ง กุ้งแห้ง ปลาย่างในน้ำจนนุ่ม แล้วค่อยเอามาแกงครับ

พอปั่นถึงที่พัก กางเต็นท์ผูกเปลอะไร เรียบร้อย ก็ปอกเปลือกลูกสมอที่เก็บมา หั่นเนื้อลูกสมอเป็นชิ้นบางๆ คั้นน้ำเกลือสักรอบหนึ่ง แล้วตั้งเตา เอากะทิใส่หม้อสนาม ละลายพริกแกงเผ็ด พอเดือด ใส่เนื้อสัตว์และชิ้นสมอหั่น ใบมะกรูดสักสองใบ เติมน้ำปลา น้ำตาล เคี่ยวจนสมอสุกนุ่ม
Image
เคล็ดความอร่อยของแกงคั่วกะทิ คือเราทิ้งให้เย็นก่อนแล้วอุ่นอีกรอบ รสจะเข้าเนื้อ กลมกล่อมดีกว่าตอนสุกใหม่ๆ มาก ถ้าตอนอุ่นมียอดชะอมเติมใส่สักหน่อยก็จะอร่อยเลยแหละ

ผมลืมบอกไปครับว่า สูตร “แกงคั่วสมอไทย” ที่เอามาชวนทำนี้

เป็นสูตรเก่าของ “หลานแม่ครัวหัวป่าก์” (คุณจีบ บุนนาค) ในหนังสือของท่าน ชื่อ ตำราปรุงอาหาร สำรับรอบปี ตีพิมพ์เมื่อปี ๒๔๗๖ นะครับ
Image
และถ้าคำเก่าที่ว่า “ชอบของขมฯ” จะเป็นจริงสำหรับผู้สูงวัย แกงคั่วสมอไทยรสหวานอมขมลึกๆ นี้ ก็คงเหมาะกับนักปั่นทัวริง กลุ่ม “เกษียณชวนปั่น” ที่ส่วนใหญ่คงพิสมัยอะไรขมๆ กันละครับ

ของบางอย่างในโลกนี้ ต้องอาศัย “เวลา” ที่จะรับรู้และรู้สึก จริงๆ ครับ...

มีคุณยายขายปลาสร้อยย่างประกบซี่ไม้ไผ่มัดตอกแบบนี้ที่ตลาด อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ทุกเช้าเลยครับ
Image