Image
ท้ายครัว
เรื่อง : กฤช เหลือลมัย
ผมรู้จักต้นเครือเขือง ก้ามกุ้ง กำลังควายถึก ฯลฯ
จากหนังสือมานาน รู้ว่าเป็นไม้ยืนต้นรอเลื้อย ขึ้นตามป่าโปร่ง และคนเขมรแถบอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์เรียกมันว่า “ประเปร๊อะ” พวกเขาเด็ดเอายอดอวบๆ กรอบๆ มาใส่แกงน้ำใบย่านางกับปลาร้า บางทีถ้ามีหน่อไม้เขาก็ใส่ด้วย
Image
ข้อเสนอของผมเมื่อหลายปีก่อนมีว่า...หรือแกงประเปร๊อะ
ของคนเขมรอีสานนี้เอ ที่กลายมาเป็นต้นเค้าของชื่อเรียกแกงเปอะหรือแกงเปรอะ แม้ในชั้นหลังนี้ ในหม้อแกงจะเหลือแค่หน่อไม้ ด้วยว่าหาคนกินยอดประเปร๊อะเป็นน้อยลง แต่ก็ยังเรียกชื่อเดิมๆ กันต่อมา

ก็เป็นข้อเสนอเพื่อพิจารณานะครับ...
Image
ที่จะเล่าก็คือ เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ผมไปทำธุระที่อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี เลยเอาจักรยานพับไปขี่เที่ยวดูนั่นดูนี่ในเขตตัวอำเภอ ซึ่งยังมีสภาพเป็นป่าโปร่งๆ ข้างทางอยู่มาก และผมโชคดี ได้พบเถาเครือเขืองหรือประเปร๊อะตัวจริงๆ ในที่สุด
Image
ใบอ้วนๆ กลมรี สีน้ำตาลแดงเจือเขียวของมันสะดุดตามาก เมื่อเรียงพาดเป็นราวอยู่กับไม้ใหญ่ข้างทาง ยอดที่ไม่สมบูรณ์มากนักจะค่อนข้างเล็ก เด็ดรูดเอาแต่ใบและกิ่งที่หักด้วยมือได้ ส่วนยอดที่อ่อนมากๆ ลักษณะเป็นก้านยาว อวบ กรอบ โน้มเด็ดหักมาได้ยาวแค่ไหน นั่นก็คือส่วนที่อ่อนพอจะกินได้อร่อยครับ

จะเล่าด้วยว่า ผมลองถามคนแก่ๆ แถวนั้น ทุกคนรู้จักเครือเขือง คุณยายคนหนึ่งบอกให้ “เอาไปแกงน้ำใบย่านางสิ แซ่บหลาย” น้องผู้ชายอีกคนบอกว่าเอาใบอ่อนห่อเมี่ยงกินแบบลาวอร่อยดีเป็นอันว่ายังมีคนกินเป็นกันอยู่
Image
Image
Image
Image
เถาตรงที่ผมเด็ดมานั้น มีรอยหัก รอยเก็บอยู่ก่อนบ้างแล้ว...นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนเก็บผักข้างทางนะครับ มันเหมือนรู้ว่าเรายังมีเพื่อนอยู่ แม้จะไม่รู้จักตัวก็ตามที

“แกงประเปร๊อะ” หม้อนี้ ผมคั้นน้ำใบย่านางสีเขียวอี๋ ใส่หม้อตั้งไฟจนเดือด ตำข้าวสารเหนียวแช่น้ำจนแหลกเป็นข้าวเบือ ใส่พริกสดหอมแดงตำรวมไปพอหยาบๆ กับใส่ตะไคร้ทุบพอแตก หน่อไม้ต้มฝานบาง ปรุงน้ำปลาร้า พอหอมดีจึงใส่ยอดและใบอ่อนประเปร๊อะ ตามด้วยใบแมงลักและผักขะแยง
Image
ใครชอบกินแกงลาว แกงเปอะ แกงย่านาง ฯลฯ แล้วแต่เรียกกันนะครับ ต้องชอบแกงประเปร๊อะหม้อนี้แน่ ใบและยอดมันออกเปรี้ยวอ่อนๆ อร่อยมากๆ ครับ...