ภพ-พบ
จากบรรณาธิการ
ณ โรงแรมเก่าแก่แห่งหนึ่งในเขมร ชายหนุ่มเชื้อสายญี่ปุ่น ก้มหน้าล้างมือในห้องน้ำชายของห้องอาหาร พอเงยหน้าขึ้นมองกระจกบานใหญ่ เขาก็เห็นหญิงสาวผมดำยาวปิดหน้ายืนนิ่งอยู่ข้างหลัง
ชายหนุ่มไม่พูดไม่แสดงอาการอะไร เดินออกจากห้องน้ำและกลับมาที่โต๊ะอาหารซึ่งครอบครัวเรานั่งกินข้าวกันอยู่
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาพบเห็นสิ่งที่พวกเราญาติคนไทยบอกเขาว่าคือผี
คืนนั้นก่อนนอนหลายคนไปไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่ของโรงแรมเพื่อขอนอนอย่างสงบ ไม่อยากพบเห็นอะไรมารบกวน
ผมและญาติหนุ่มเชื้อสายญี่ปุ่นเรียนกันมาทางสายวิทยาศาสตร์ไม่เชื่อเรื่องผีสางที่พิสูจน์ไม่ได้ ยิ่งตัวเขาเองเติบโตมาในครอบครัวที่ไม่เคยเล่าหรือหลอกผี ไม่มีเรื่องผีในความรับรู้
สิ่งที่เห็นต่อหน้าต่อตาเขาเองคนเดียว หาคำอธิบายด้วยทฤษฎีใด ๆ ไม่ได้
ผีมีจริงไหม วิญญาณคืออะไร
ทำไมบางคนมีประสบการณ์พบเห็น บางคนพบเห็นบ่อยหรือมากกว่าบางคน บางคนไม่พบเห็นเลย
อธิบายกันเล่น ๆ เวลาแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องผีกับเพื่อนว่าในตัวบางคนอาจมีเสารับสัญญาณคลื่นของสิ่งที่มองไม่เห็นขณะที่หลายคนไม่มีเสาแบบนั้น ส่วนคนเป็นร่างทรงหรือ “แม่มด” น่าจะมีเสาพิเศษที่สั่นด้วยความถี่เดียวกับคลื่นจากภพอื่น ทำให้วิญญาณเข้าสิงร่างได้ง่าย
คำอธิบายนี้คุยกันสนุก ๆ ส่วนที่เป็นหลักเป็นฐานนั้น นิพัทธ์พร เพ็งแก้ว ผู้เขียนหนังสือ จิตวิญญาณแม่มด และบทความเรื่อง “แม่มดในวิถีพุทธไทย” ในนิตยสาร สารคดี ฉบับ ๔๔๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เล่าถึงตำราไทยโบราณที่เธอสืบค้น เช่น ตำราดูนิมิตและฤกษ์ยาม คัมภีร์จักรทีปนี ระบุว่า ผู้จะเกิดเป็นแม่มด ถูกกำหนดโดยฤกษ์กำเนิดบางฤกษ์เท่านั้น เช่น สมโณฤกษ์ เรวดีฤกษ์ (ฤกษ์ไหนเป็นอย่างไร หาอ่านกันต่อในหนังสือและบทความข้างต้นเองนะครับ)
ในบทความเธอค่อนข้างเชื่อว่า นอกจากการสืบทอดจิตวิญญาณแม่มดผ่านทางสายตระกูลแล้ว ฤกษ์กำเนิดเป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้น ๆ แสดงว่าไม่ใช่ทุกคนสามารถเป็นแม่มดหรือมีพลังจิตพิเศษ แต่ต้องมีเงื่อนไขเฉพาะบางอย่าง
แม้คนส่วนใหญ่อาจไม่มีเสาสัญญาณแรงสูงแบบแม่มด แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนน่าจะเคยมีประสบการณ์ร่วม คือลางสังหรณ์ถึงคนที่กำลังจะจากไป หรือความฝันถึงคนที่จากไปแล้ว
ประสบการณ์ตรงของผมที่สร้างความประหลาดใจมาก ๆ คือหลังจากแม่เสียชีวิตไปได้ ๒ ปี คืนหนึ่งผมฝันว่าแม่มาบอกอยากกินไก่ พอตื่นขึ้นภาพฝันที่แม่เดินมาคุยด้วยนั้นยังแจ่มชัด รู้สึกเหมือนได้พบกับแม่จริง ๆ และด้วยความงุนงงสงสัย เพราะแม่จะมาบอกผมทำไมว่าอยากกินไก่ ทำไมไม่ฝันถึงประสบการณ์อื่น ๆ ที่เคยมีร่วมกัน ยิ่งคิดก็ยิ่งผิดปรกติเพราะความทรงจำถึงแม่ที่ดีที่สุดคือแม่ชอบทำกับข้าวอร่อย ๆ ให้ลูกกิน
เรื่องราวที่พอจะประมวลได้ คือตอนนั้นใกล้วันสารทจีนแล้ว
ซึ่งพี่น้องจะจัดอาหารไว้ไหว้แม่ โดยส่วนตัวผมไม่เคยสนใจว่าแต่ละปีจะจัดของไหว้อะไรบ้าง เพราะเป็นความรับผิดชอบของพี่ ๆ แต่เมื่อบอกเล่าความฝันนี้ พี่ก็ตกใจว่าใช่ ปรากฏว่าพวกเราไม่เคยจัดไก่ไหว้ให้แม่เลย ทั้งที่โดยธรรมเนียมจีนเป็ดไก่ถือเป็นของไหว้หลัก ความอยากกินไก่ของแม่จึงมีเหตุผล
ปีนั้นผมอาสาเป็นคนซื้อไก่ตอนมาไหว้ให้แม่เป็นปีแรก ด้วยถือว่าแม่มาบอกผมโดยตรงในความฝัน
วิญญาณมีจริงไหม คงหาทางพิสูจน์ยาก
แต่ความรู้สึกคิดถึง อยากพบบุคคลที่รัก ไม่ว่าเขาจะจากไปภพไหนนั้น เป็นความจริงแน่
สุวัฒน์ อัศวไชยชาญ
บรรณาธิการบริหารนิตยสารสารคดี
suwatasa@gmail.com
ฉบับหน้า
Next Issue
๑๐๐ ปี ศิลป์ พีระศรีในเมืองไทย