“เปิงด้าจก์”
ข้าวแช่มอญดับร้อน
แบบไทยๆ
คิด-cool
เรื่อง : สุชาดา ลิมป์
ภาพ : บันสิทธิ์ บุณยะรัตเวช
ยุคที่ยังไร้ไฟฟ้า อาหารการกินล้วนสัมพันธ์กับฤดูกาล
เมื่อฤดูร้อนมาเยือน ชาวมอญรู้จักนำข้าวสุกขัดยางข้าวออก ต้มในน้ำสะอาด อบควันเทียนและดอกไม้หอมอย่างกุหลาบมอญ มะลิ กระดังงา ตามแต่จะหาได้ในรั้วบ้าน แล้วเก็บรักษาอุณหภูมิในหม้อดินเผาใบใหญ่ข้ามคืนจนได้น้ำเย็น เรียกอาหารนั้นว่า “เปิงด้าจก์” แปลว่าข้าวน้ำ
ถึงคราวกินก็จับคู่ “ลูกกะปิทอด” ที่ผสมรสจากหลากวัตถุดิบ
ที่เห็นตรงหน้าคือสูตรของ “ร้านคุณป้าสุดจิตร” เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ผสมเนื้อหมู ตะไคร้ กระชาย หัวหอม หัวกะทิ แล้วนำมาปั้นเป็นลูกกลม ๆ พอดีคำ ทอดให้กรอบ
ส่วนผสมเดียวกันยังนำมาทำ “พริกหยวกสอดไส้” หรือ “หัวหอมแขกยัดไส้” โดยคว้านไส้พริกหยวกหรือหัวหอมแขกออก แล้วยัดลูกกะปิใส่แทน ก่อนนำไปชุบไข่และแป้งสาลีแล้วทอดจนเป็นสีเหลืองทอง
ยิ่งอร่อยเมื่อกินเคียงเครื่องผัดหวาน อย่างหมูฝอย ไชโป๊ผัดไข่ กระเทียมดองผัดไข่ ช่วยให้อิ่มท้องแบบได้คลายร้อนและหอมน้ำดอกไม้ชื่นใจ
คนไทยรู้จักสำรับนี้ในชื่อ “ข้าวแช่ชาววัง” นับแต่เจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่นสนมเอกในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้มีเชื้อสายมอญ ได้ปรุงข้าวแช่ขึ้นถวายคราวแปรพระราชฐานยังพระนครคีรี จังหวัดเพชรบุรี และถ่ายทอดวิธีทำข้าวแช่แก่บ่าวไพร่จนแพร่หลายในราชสำนักและเพชรบุรี
ต่อมาข้าวแช่ได้รับการเผยแพร่นอกวังและปรับปรุงสูตรจนเป็นที่นิยมของประชาชน ปัจจุบันยังหากินได้ตามชุมชนมอญในไทยและจังหวัดเพชรบุรี
แต่ยุคโลกร้อน น้ำเย็นคงไม่พอ จึงใส่น้ำแข็งในข้าวแช่ด้วย