หากหนังหรือซีรีส์โทรทัศน์ว่าด้วยเรื่องราวในรั้วโรงเรียนเมื่อในอดีตนั้น มักเชิดชูผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาอย่างครูผู้สอนที่ขัดเกลาให้นักเรียนกลายเป็นคนดีและค้นพบตนเอง เช่น The Miracle Worker (ค.ศ. ๑๙๖๒) หรือ To Sir, With Love (ค.ศ. ๑๙๖๗) ซึ่งเรื่องราวความประทับใจลักษณะนี้ก็ยังได้รับการถ่ายทอดอยู่เสมอ
ความเหลื่อมล้ำเช่นนี้ยังคงปรากฏจนถึงปัจจุบันในสารคดี School Town King (ปี ๒๕๖๔) ที่ถ่ายทอดชีวิตสองแรปเปอร์วัยรุ่นในสลัมคลองเตยที่ขาดโอกาสทางการศึกษาอย่างที่วาดหวัง
<< Film Lessons >> คุณภาพการศึกษาที่ไม่เท่าเทียมกันของพื้นที่ชนบทกับในเมืองถูกถ่ายทอดจากหลายพื้นที่ เช่น ภาพยนตร์จากอิหร่าน Where Is the Friend's House ? (ค.ศ. ๑๙๘๗) ที่หมู่บ้านโคเคอร์ เด็กชาย ต้องนำสมุดการบ้านที่เพื่อนลืมไว้ไปคืน จนกลายเป็นการผจญภัยที่เกินกว่าเขาจะคาดคิด หรือภาพยนตร์จีน Not One Less (ค.ศ. ๑๙๙๙) เด็กหญิงวัย ๑๓ ปีรับหน้าที่ครูจำเป็นในชนบทซึ่งต้องดูแลนักเรียนไม่ให้หายไปแม้แต่คนเดียวและกลายเป็นปัญหาเมื่อเด็กคนหนึ่งหายไปเพื่อหางานทำในเมือง
<< Film Lessons >> การต่อต้านระเบียบในสถานศึกษาปรากฏในงานหลายเรื่อง เช่น The Breakfast Club (ค.ศ. ๑๙๘๕), Ferris Bueller's Day Off (ค.ศ. ๑๙๘๖) และ Matilda (ค.ศ. ๑๙๙๖) ซึ่งนอกเหนือจากการให้ตัวเอกต่อกรกับครูนิสัยเผด็จการ ยังสะท้อนความสัมพันธ์กับครอบครัวที่ย่ำแย่มากด้วย
<< Film Lessons >> ปัญหาการจ่ายค่าแป๊ะเจี๊ยะในโรงเรียนดังไม่ได้มีแค่ในไทย หนังต่างประเทศที่นำเสนอประเด็นทุจริต เช่น Bad Education (ค.ศ. ๒๐๑๙) หรือแนวสารคดี Operation Varsity Blues : The College Admissions Scandal (ค.ศ. ๒๐๒๑)
ใน The Gifted นักเรียนพลังกิฟต์ที่แม้ฉากหน้าจะเล่าในแบบหนังไซไฟ แต่แท้จริงคือการวิจารณ์ระบบการเรียนที่เหลื่อมล้ำในโรงเรียนที่เชิดชูและให้โอกาสเด็กที่เก่งกว่าเสมอแต่ผลลัพธ์กลับสร้างบาดแผลให้เด็กห้องกิฟต์ด้วยเช่นกัน
<< Film Lessons >> มีหนังสารคดีหลายเรื่องที่ตั้งคำถามถึงระบบการศึกษาที่สร้างความกดดันแก่เยาวชนในการเรียนและการสอบแข่งขันไม่ว่าจะเป็น Final Score 365 วัน ตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์ (ปี ๒๕๕๐) ของไทย, Waiting for Superman (ค.ศ. ๒๐๑๐) ของสหรัฐอเมริกา และ Reach for the SKY (ค.ศ. ๒๐๑๗) ของเกาหลีใต้