Image

Image

ท้ายครัว

เรื่องและภาพ : กฤช เหลือลมัย

ฤดูฝนเป็นช่วงเวลาที่พืชผักแข่งกันผลิใบแตกยอดงามสะพรั่ง เป็นที่พึงใจของผู้พิสมัยการเก็บหาผักอินทรีย์ปลอดสารพิษตามธรรมชาติ ใครชอบปั่นจักรยาน หรือจ็อกกิงออกกำลัง ยามเช้ายามเย็น ไม่ว่าจะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ หรือยิ่งตามต่างจังหวัดแล้วพอมีความรู้เรื่องผักหญ้ากินได้ หรือ “ไม้แดก” เพียงเล็กน้อย ต้องเก็บได้หลายอย่างแน่ๆ

Image
Image

แต่ปัญหาคือ แล้วจะเอาผักดีๆ พวกนี้มาทำอะไรกินให้อร่อยถูกปากถูกใจ เพราะเราก็คุ้นเคยแต่กับผักตลาดทั่วไปหรือไม่ก็ถูกพันธนาการไว้ด้วย สูตรอาหารในตำรากับข้าวมาตรฐาน

ความสนุกก็เลยอยู่ตรงนี้ คือมาช่วยกันหาสูตรเด็ดๆ ทำกินกันเพื่อที่ต่อไป “ไม้แดก” พวกนี้จะได้ไม่ถูกมองเป็นวัชพืชอีก

Image
Image

เมื่อเร็วๆ นี้ผมปั่นจักรยานผ่านไปบนทางหลวงสาย ๒๑ ช่วงตำบลคลองกระจัง อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ เลยพบว่า ริมทางที่บรรดาคนขับรถยนต์คงเห็นเป็นพงไม้รกๆ นั้น เต็มไปด้วยผักกินได้ อย่างเช่น ตำลึง กะทกรก กระถิน ผักปราบ มะระขี้นก หญ้ายาง เถาย่านาง แถมมีต้นน้อยหน่าขึ้นประปราย ผมเก็บยอดอ่อนใส่กระเป๋าข้างรถมาอย่างละนิด และระหว่างทางปั่นกลับ ก็คิดออกว่า จะลองทำแกงอ่อมปลาร้าน้ำข้นแบบลาวดูครับ เป็นสูตรที่น่าจะผสมผสานรสชาติหลากหลายของไม้แดกเหล่านี้ให้กลายเป็นจุดเด่นขึ้นมาได้

Image

Image
Image

ก่อนอื่นก็คั้นน้ำใบย่านาง ให้ได้น้ำเขียวๆ หอมๆ

เครื่องพริกแกงง่ายมาก มีหอมแด เกลือ พริกแห้ง ตะไคร้ และของที่ทำให้น้ำแกงข้น คือข้าวสารเหนียวแช่น้ำพอนุ่ม ที่เรียก “ข้าวเบือ” ตำรวมกันจนละเอียดดี

Image

นอกจากผักหญ้านานาชนิดที่เก็บมา ผมก็ใส่ต้นหอม ชะอม และใบแมงลักเพิ่มด้วยครับ

เริ่มทำโดยละลายพริกแกงในน้ำคั้นใบย่านาง ตั้งไฟจนเดือด ปรุงรสเค็มนัวด้วยน้ำปลาร้าหอมๆ แล้วทยอยใส่ยอดน้อยหน่า กะทกรก ตำลึง ผักปราบ หญ้ายาง กระถิน ชะอม มะระขี้นก เคี่ยวสักพัก พอเห็นว่าเริ่มสุก จึงใส่ต้นหอมและใบแมงลัก คนพอให้เข้ากัน เท่านี้ก็กินได้แล้วครับ

Image
Image

มันเป็นสูตรกับข้าวที่ง่าย อร่อย และผสมผสานรสโอชาของผักริมทางให้เข้ากันได้อย่างเหมาะเจาะ

ยิ่งถ้าใครมีไก่บ้าน ปลาแม่น้ำเนื้อดีๆ กบ ปูนา หรือหอยขม หอยทราย ก็ยิ่งวิเศษเลยครับ...