ฝูงนกนางนวลก็จะบินโฉบปลากะตักที่รอดจากการถูกฮุบ ดูชุลมุนมาก เหมือนว่านกจะบินเข้าไปในปากวาฬเลยทีเดียวบางทีก็ลุ้นว่านกจะโดนวาฬงับลงท้องไปบ้างหรือเปล่า  

เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ แต่เช้ามืด เพื่อที่จะมาขึ้นเรือไปดูวาฬแต่เช้า พอมาถึงบางตะบูน จังหวัดเพชรบุรี พระอาทิตย์ก็ขึ้นแล้ว อากาศช่วงต้นฤดูหนาวจึงเหมาะแก่การมาดูวาฬ  ปากอ่าวบางตะบูนเป็นปากแม่น้ำเพชรบุรีที่ไหลลงสู่อ่าวไทย บริเวณปากแม่น้ำอุดมสมบูรณ์มาก ไม่แปลกใจหากเราจะพบเห็นสัตว์และพืชมากมายหลายชนิดในบริเวณปากแม่น้ำ

ชีวิตอันน่าทึ่งของพี่ใหญ่แห่งอ่าวตัว ก คือ แม้ตัวจะใหญ่โตยาวพอ ๆ กับเรือประมง แต่อาหารของวาฬบรูด้า คือ ปลาตัวเล็ก ๆ เคย หมึก และแพลงก์ตอน  ปลาที่มันกินก็คือปลากะตักที่คนนำมาทำนํ้าปลาและทำปลากรอบ  เวลาที่มันอ้าปากอันใหญ่โตฮุบฝูงปลาเข้าไป ปลาจะดิ้นรนกระโดดหนี สะท้อนแสงแดดดูวิบวับมาก

ต้นตะบูน ต้นไม้ที่พบได้ตามป่าชายเลนบริเวณน้ำกร่อย บางตะบูนก็ได้ชื่อมาจากต้นตะบูนที่คงมีอยู่จำนวนมากในอดีต

เมื่อเรือแล่นออกทะเล
มีนกกาน้ำบินร่อน
มองเห็นโป๊ะปลาทูอยู่ไกล ๆ
ก่อนจะไปดูวาฬ 
เราเจอนกนํ้าหลายชนิด
ยืนหาอาหารบริเวณปากแม่น้ำ

เมื่อมองจากสะพานเฉลิมพระเกียรติปากอ่าวบางตะบูนเข้ามาในแผ่นดิน เราจะเห็นชุมชนขนาดใหญ่ มีบ้านเรือน วัด และร้านอาหารตลอดสองฝั่งแม่น้ำ

เรือพานักท่องเที่ยวมาดูวาฬบรูด้า บางครั้งวาฬก็ว่ายมาใกล้เรือมาก เรียกเสียงอันตื่นเต้นจากผู้คนที่มาเฝ้าดูได้  ในการดูวาฬ เรือต้องเว้นระยะห่างจากวาฬเพื่อความปลอดภัยของคนและวาฬ  เราสามารถพบเจอวาฬได้เพียงแค่ออกจากชายฝั่งไปไม่กี่กิโลเมตร

ปัจจุบันวาฬบรูด้าเป็นสัตว์ป่าสงวนตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒