Image
ถ้วยต้าน คอมฯ
รอยความหลัง 
วาทกรรม “ชังชาติ”
เหมือนสายฝนปีนี้มาเผยความลับ

มันซุกซ่อนอยู่นานเท่าใดแล้วไม่รู้ ฟุคอยู่บ้านหลังนี้มาเป็น ๒๐ ปี เขาไม่เคยรู้เห็นมาก่อน

จนเมื่อฤดูฝนปีนี้ซัดสายมา หญ้าขึ้นเขียวรกคลุมซากโคนมะขามหลังบ้าน ฟุคคว้ามีดไปดายหญ้าออก พอพื้นดินเตียนสายตาเขาก็ปะเข้ากับอะไรบางอย่าง “คอมมิว...” ฝนชะหน้าดินเผยให้เห็นตัวหนังสือเพียงเท่านั้น ฟุคงัดแซะออกมาล้าง จึงอ่านแถวตัวหนังสือบนขอบชามใบเก่าได้เต็มคำว่า “จงกำจัดคอมมิวนิสต์ให้หมดไปจากแผ่นดินไทย”

หนุ่มรัฐศาสตรบัณฑิตจบใหม่หมาดมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
รู้สึกตื่นใจ และคิดว่าน่าจะแบ่งปันความรู้สึกนี้ให้คนอื่นบ้าง จึงโพสต์ลงเฟซบุ๊ก Khruekphon Tedsanatam ของเขา

มียอดไลก์ยอดแชร์เป็นพัน รวมถึงมีคนติดต่อขอซื้อ แต่เขาปฏิเสธ

ชามสังกะสีเคลือบที่สิ้นสุดการใช้งานไปแล้ว แต่กลับกลายเป็นหลักฐานประวัติศาสตร์สังคมการเมืองของผืนแผ่นดินที่ซ่อนฝังมันไว้ และยังเป็นโอกาสให้ย่าได้เล่าตำนานบ้านเมืองริมเทือกเขาภูพาน
“บ้านย่าอยู่หลังที่ว่าการอำเภอวานรนิวาส ย้ายจากสกลนคร มารับราชการเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอยู่ที่นี่เมื่อปี ๒๕๑๒”

ฟุค หรือ คฤกพล เทศนธรรม เล่าสิ่งที่เขารู้อยู่ก่อนแล้ว

แต่เขาไม่เคยรู้จักคอมมิวนิสต์นอกจากที่ครูสอนในชั้นเรียน

“ย่าบอกว่าเมื่อก่อนจานชามแบบนี้มีเยอะ หลวงแจกมาให้ใช้ เดิมมีเป็นโหล ย่าทิ้งไป ใบนั้นโผล่มาให้เห็นได้อย่างไรก็ไม่รู้”

จากที่คุยกับย่า ฟุคบอกว่าย่าไม่ได้สัมผัสคลุกคลีกับคอมมิวนิสต์ เพราะอยู่ข้างรัฐบาลมากกว่า 

“ตามความคิดเห็นย่าบอกว่าอย่าไปยุ่ง พวกนี้หัวรุนแรง ชวนเราให้ไปเชื่อถืออุดมการณ์ที่เขายึดถือ เป็นพวกผู้ก่อการร้ายพวกไม่ดี”

“คนที่นิยมฝ่ายคอมฯ จะยอมใช้ถ้วยพวกนั้นไหม ?”

“ไม่ได้ถามย่า แต่ครอบครัวที่ได้รับมาก็คงใช้ ย่าบอกว่าแก ก็เอามาใช้ ตอนที่ยังทำงานอยู่ต้มข้าวต้มน้ำให้ทหารตำรวจยุคนั้นก็ใช้ถ้วยจานแบบนี้ ทหารมาลาดตระเวนก็ใช้ถ้วยพวกนี้”

จนผ่านยุคสมัยการแบ่งแยกต่อต้าน ถ้วยชามก็เก่าบิ่นไปตามการใช้งาน ย่าจำไม่ได้ว่าเอาไปฝังหรือทิ้งที่ไหน จนหลานมาขุดเจอและเขาอยากให้เป็นประโยชน์แก่สาธารณะ

“ผมไม่คิดจะเก็บไว้อยู่แล้ว เลยส่งไปให้พิพิธภัณฑ์สามัญชน ให้เอาไปศึกษาหรือเก็บไว้ให้คนรุ่นหลังได้ดู”