Image
Image
ชื่อบุคคลที่ตั้งขึ้นใหม่เมื่อเข้าร่วมขบวนการ แต่ละคนอาจมีหลายชื่อ เปลี่ยนไปตามการเคลื่อนย้ายพื้นที่เขตงานหรือเปลี่ยนงานที่ทำ
Image
ข้อเรียกร้องต่อชีวิตส่วนตัวของนักปฏิวัติ “ถ้ายังไม่มีแฟนอย่าเพิ่งมี ถ้ามีแล้วอย่าเพิ่งแต่งงาน ถ้าแต่งงานแล้วอย่าเพิ่งมีลูก” เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถทุ่มเทให้แก่การปฏิวัติอย่างเต็มที่ 
Image
สีประจำพรรคคอมมิวนิสต์ทั่วโลก ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์แทนความเป็นคอมมิวนิสต์ เช่น พวกแดง พื้นที่สีแดง เป็นแดง จีนแดง ฯลฯ
Image
เขตยึดครองของคอมมิวนิสต์ เจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถเข้าถึงได้
Image
ที่ตั้งหน่วยย่อย ที่มีภารกิจตามโครงสร้างงาน เช่น ทับหมอ ทับงานมวลชน ทับศิลปิน ทับทหาร
Image
การจัดโครงสร้างความสัมพันธ์ในกลุ่มผู้ร่วมขบวนการ คอมมิวนิสต์ ตามแนวทางที่ว่า “บุคคลขึ้นต่อองค์กรจัดตั้ง ส่วนน้อยขึ้นต่อส่วนมาก ชั้นล่างขึ้นต่อชั้นบน ทุกส่วนขึ้นต่อศูนย์กลาง” ผู้ที่ปฏิบัติการจัดตั้งก็มักเรียกว่า “จัดตั้ง” ด้วย
Image
กำเนิดจากปรัชญาลัทธิมาร์กซ์ ที่มีอุดมการณ์ในการสร้างสังคมใหม่ที่มีความเท่าเทียม โดยชนชั้นกรรมาชีพเป็นแกนนำการปฏิวัติ กวาดล้างการกดขี่เอารัดเอาเปรียบให้หมดสิ้นไป  ต่อมา วลาดีมีร์ เลนิน นักปฏิวัติชาวรัสเซีย เสนอว่าการปฏิวัติจะประสบความสำเร็จได้ ชนชั้นกรรมาชีพต้องจัดตั้งพรรคของตนขึ้นมานำการต่อสู้ เขาจึงตั้งพรรคบอลเชวิกขึ้นในปี ๒๔๔๖ ซึ่งได้กลายเป็นต้นแบบของพรรคคอมมิวนิสต์ทั่วโลก หลังจากบอลเชวิกสามารถปฏิวัติรัสเซียเป็นคอมมิวนิสต์ได้สำเร็จ
Image
ยุทธวิธีการรบของ พคท. ที่ เปลื้อง วรรณศรี กรองขึ้นใหม่จาก “เข็มมุ่ง” ๑๖ คำ ของประธานเหมาเจ๋อตงที่บอกว่า ข้าศึกรุกเราถอย ข้าศึกพักเรากวน ข้าศึกเพลียเราตี ข้าศึกหนีเราไล่ เน้นการเตรียมการที่รัดกุมและมักไม่เป็นฝ่ายลงมือก่อน
Image
สรรพนามนำหน้าชื่อของชาวคอมมิวนิสต์ บ่งบอกความเท่าเทียมเสมอภาคโดยไม่แยกเพศหรือวัย รวมทั้งใช้เรียกแบบรวมหมู่ว่า สหายนำ สหายหญิง สหายชาย สหายนักศึกษา สหายชาวนา มักใช้ในวาระที่เป็นทางการ เช่นการกล่าวสุนทรพจน์  แต่ในทางปฏิบัติ หมู่สหายที่สนิทสนมกันมักใช้คำว่า “คุณ” นำหน้าชื่อมากกว่า และเรียกสหายนำรุ่นอาวุโสที่เป็นผู้ชายแบบไทยๆ ว่า “ลุง” เรียกสหายอาวุโสที่เป็นสตรีว่า “ป้า”
Image
พื้นที่ที่ยังเคลื่อนไหวแย่งชิงกันอยู่ ไม่เป็นเขตยึดครองของฝ่ายใดแบบเด็ดขาด
Image
แนวคิดของประธานเหมาเจ๋อตงในการวิเคราะห์ภูมิศาสตร์การเมืองของจักรวรรดินิยม นำเสนอครั้งแรกในปี ๒๕๑๗ โดยแบ่งประเทศต่างๆ ในโลกออกเป็นสามกลุ่ม

- สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต เป็นโลกที่ ๑
- ญี่ปุ่น แคนาดา และยุโรป เป็นโลกที่ ๒
- จีนกับทุกประเทศในเอเชีย แอฟริกา และลาตินอเมริกา เป็นโลกที่ ๓

ซึ่งต้องร่วมกันต่อต้านการทำลายและการปล้นชิงจากสองประเทศมหาอำนาจโลกที่ ๑
Image
ความลับที่ปกปิดไว้ถูกรู้เห็น เช่น ที่อยู่ หรือเขตงานถูกเปิดเผย หรือการถูกเปิดเผยตัวจริงจากที่ใช้ชื่อจัดตั้ง
Image
องค์การคอมมิวนิสต์สากล (Communist International  
Comintern) องค์กรกลางของโลกคอมมิวนิสต์ ตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๔๖๒ ที่กรุงมอสโก สหภาพโซเวียต ด้วยเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการปฏิวัติทั่วโลก ตอนหลังยุบเลิกไปเมื่อปี ๒๔๘๖
Image
ในความหมายของคอมมิวนิสต์ ไม่ใช่แค่พื้นที่ป่าเขา แต่รวมถึงเขตงานในที่ราบ ที่เป็นหมู่บ้าน ทุ่งนา ป่าละเมาะ โรงพยาบาล โรงเรียน ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของพรรคคอมมิวนิสต์
Image
แผนการเข้ายึดอำนาจรัฐโดยสร้างฐานที่มั่นในเขตชนบทให้เข้มแข็งแล้วลุกฮือเข้ายึดเมือง ดำเนินการผ่าน สี่ขั้นตอน หนึ่ง สร้างฐานที่มั่นตามป่าเขาเป็น “เขตปลดปล่อย” ที่ปราศจากเจ้าหน้าที่รัฐ และเป็นพื้นที่ปลอดภัยจากการกวาดล้าง  สอง ยึดหมู่บ้านเป็นพื้นที่จรยุทธ์ ทำสงครามตามแบบและนอกแบบอย่างเปิดเผย ขยายการครอบครองพื้นที่ตั้งแต่หมู่บ้านจนถึงศูนย์กลาง ตามยุทธศาสตร์ป่าล้อมบ้าน-บ้านล้อมเมือง-เมืองล้อมนคร ของคอมมิวนิสต์จีน สาม จัดตั้งรัฐบาลปลดแอกขึ้นปกครองพื้นที่ยึดครอง และสี่ ทำสงครามกลางเมือง ล้มล้างรัฐบาลเดิม ใช้ระบบการปกครองคอมมิวนิสต์ทั้งประเทศ
Image
หรือกองโจร เป็นการทำสงครามนอกแบบที่ฝ่ายด้อยกำลังกว่าใช้ต่อสู้กับฝ่ายที่เหนือกว่า โดยอาศัยความได้เปรียบด้านภูมิประเทศและมวลชน  เคลื่อนไหวแบบไม่ตั้งฐานติดที่ ใช้ยุทธวิธีซุ่มโจมตี เลี่ยงการปะทะแบบเผชิญหน้า  

ปฐมบทของสงครามกองโจรตามที่มีการบันทึกไว้บอกว่าหน่วยทหารสเปนเคยใช้รูปแบบสงครามกองโจรต่อสู้กองทัพของนโปเลียน เช่นเดียวกับที่พวกโบเออร์ในแอฟริกาใต้ใช้ยุทธวิธีนี้สู้กับกองทัพอังกฤษ ซึ่งผู้สันทัดกรณีด้านสงครามตั้งข้อสังเกตว่า สงครามกองโจร “มักจะนำไปสู่การรบที่ยืดเยื้อเสมอ และในระยะนี้เองกองทัพรุกรานที่ต่อสู้กับสงครามกองโจรจะได้รับความพินาศขนาดย่อม และเกิดเหตุการณ์ที่น่าสลดใจขึ้นทีละน้อยอยู่เรื่อยไป”  
Image
แนวทางเคลื่อนไหวของสายงาน พคท. ในเมือง คือรอโอกาสให้กองทัพ ทปท. จากชนบทมาปลดปล่อยเมือง ตามแบบกองทัพแดงปลดปล่อยจีน ไม่ใช่ให้ในเมืองลุกฮือขึ้นก่อน เพราะเสี่ยงต่อการถูกปราบปรามจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก