ANSi by Sarakadee
Home
Articles
Issues
Log in
Nittai-ji
“วัดญี่ปุ่น-ไทย”
ในนาโกยะ
Souvenir & History
เรื่องและภาพ : สุเจน กรรพฤทธิ์
ถ้าเทียบกับสถานที่อื่นทั่วโลก เมือง
นาโกยะ (Nagoya) จังหวัดไอจิ (Aichi)
น่าจะเป็นเมืองที่มีของที่ระลึกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอันเกี่ยวกับประเทศไทยมากที่สุด
ก่อนช่วงโรคโควิด-๑๙ ระบาด เมื่อมาเที่ยวเมืองนี้ นักท่องเที่ยวไทยส่วนมากจะมุ่งตรงไปหาที่เที่ยวหลักคือปราสาท
นาโกยะและแหล่งขายของชื่อดังในเมือง
แต่ใกล้บริเวณใจกลางเมือง กลับมีวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งพร้อมกับของที่ระลึกจากสยามซ่อนตัวอยู่
วัดที่ว่านี้ชื่อ “วัดคากุโอซัง นิตไตจิ
(Kakuozan Nittai-ji) ที่สร้างขึ้นในปี
๒๔๔๗ (ตรงกับสมัยรัชกาลที่ ๕ ของสยาม) โดยชื่อเดิมของวัดนี้คือนิซเซ็นจิ
(Nissen-ji) ที่แปลตรงตัวว่า “วัดญี่ปุ่น-สยาม”
เมื่อเข้าไปที่วัดจะพบทันทีว่ามีกลิ่นอายบางอย่างของไทย เริ่มจากระฆังใบใหญ่ที่หอระฆังหน้าวัดซึ่งมีภาษาไทยเขียนชัดเจนบนตัวระฆังว่า “ศากยมุนี”
โดยเป็นตัวอักษรสีทอง ทั้งยังมีพระราชลัญจกรของรัชกาลที่ ๕ และ ๙
ปรากฏอยู่บนตัวระฆัง
ใกล้กันยังมีพระบรมราชานุสาวรีย์ของรัชกาลที่ ๕ ก่อนทางเข้าวิหารมีเสาหินติดตั้งพระราชลัญจกรของรัชกาลที่ ๕
และ ๙ เมื่อเข้าไปภายในวิหารหลักของ
วัดก็พบกับโต๊ะหมู่บูชาแบบไทย บนคานมีป้ายเขียนเป็นภาษาไทยว่า “พระพุทธ-
ศากยมุนี” บนโต๊ะหมู่บูชามีพระประธานคือพระศากยมุนี ด้านหน้าหิ้งมีป้ายที่ระลึกเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นของรัชกาลที่
๕, ๙ และจักรพรรดิเมจิ
ประวัติของวัดระบุว่าในปี ๒๔๔๐
มิสเตอร์วิลเลียม ซี. เปปเป. (William C.
Peppe) และทีมนักโบราณคดีอังกฤษ
ขุดสถูปองค์หนึ่งที่ตำบลปิปราห์วะ ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย พบหม้อบรรจุกระดูกมนุษย์อายุประมาณปี ๔๕๐
มีอักษรโบราณของอินเดียจารึกไว้แปลความได้ว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุของพระสมณโคดม
ต่อมารัฐบาลอาณานิคมอินเดีย (ของอังกฤษ) มอบพระบรมสารีริกธาตุให้แก่สยาม เมื่อญี่ปุ่นในรัชสมัยจักรพรรดิเมจิทราบข่าวก็ส่งพระธรรมทูตมาขอแบ่ง
และสัญญาว่าจะสร้างวัดรักษาพระบรม-สารีริกธาตุนั้นโดยจะมีการสร้างโรงเรียนเผยแผ่พระธรรมคำสอนต่อไปด้วย
อย่างไรก็ตามจดหมายเหตุเรื่อง
สารีริกธาตุเมืองกบิลพัสดุ์
ร.ศ. ๑๑๖ (ปี ๒๔๔๐) เอกสารภาษาไทยที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพระบรมสารีริกธาตุที่ส่วนหนึ่งมาอยู่ที่วัดนิตไตจิ ให้ข้อมูลเรื่องนี้อย่างละเอียดกว่า
โดยระบุว่าตำบลปิปราห์วะอยู่ใน
เมืองบัสติ ประเทศอินเดีย ใกล้ชายแดนประเทศเนปาล การขุดค้น “ปิปราห์วะ-โกต” ทำในที่ดินของมิสเตอร์เปปเป จนพบกับผอบพระบรมสารีริกธาตุในหีบศิลา
ผอบใบหนึ่งปรากฏคำจารึก “อักษรพรามี”
โดยแปลเป็นไทยได้ว่า “ที่บรรจุสารีริก
ธาตุของพระพุทธเจ้านี้ เป็นของศากย
ราชสุกิติกับพระภาตา พร้อมทั้งพระภคินี พระโอรส และพระชายาสร้างขึ้นอุทิศถวายไว้” โดยตระกูลศากยะนี้ปรากฏในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาว่าเป็นพระญาติวงศ์สายหนึ่งของพระพุทธเจ้า
นอกจากนี้ยังเขียนเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ ๕ ว่า พระเจ้าแผ่นดินสยาม (รัชกาลที่ ๕) นั้นเป็น “อิศรมหาราชพุทธสาสนูปถัมภ์” จึงถวายพระบรมสารีริกธาตุ
ให้และขอให้ช่วยแบ่งให้แก่นานาประเทศ โดยหลังจากแบ่งแล้วก็นำส่วนที่เหลือประดิษฐานไว้ที่ “ซุ้มพระเจดีย์ ยอดบรม-บรรพต” (ภูเขาทอง วัดสระเกศ) ในปี ๒๔๔๒
ด้วยเหตุนี้ วัดไทย-ญี่ปุ่นในนาโกยะจึงได้รับการสร้างขึ้นพร้อมเจดีย์ประดิษ
ฐานพระบรมสารีริกธาตุสีขาวสร้างจากหินแกรนิตสูง ๑๕ เมตร ตัวเจดีย์แล้วเสร็จปี ๒๔๖๑ โดยที่ตั้งเจดีย์อยู่ในที่ดินที่แยกจากตัววัดหลัก
วัดนี้เชื่อมโยงกับสยามแค่ไหนดูได้จากเมื่อสยามเปลี่ยนชื่อเป็น “ไทย” ในปี ๒๔๘๒ ตามนโยบายรัฐนิยมของจอมพล
ป. พิบูลสงคราม (นายกฯ ขณะนั้น) วัด
ก็เปลี่ยนชื่อจาก Nissen-ji เป็น Nittai-ji
ไปด้วย ที่น่าสนใจคือวัดนี้ไม่มีนิกาย แต่เป็นความร่วมมือของพุทธศาสนา ๑๙ นิกายในญี่ปุ่นที่ส่งพระมาดูแลหมุนเวียนกันชุดละ ๑ ปี
ทั้งนี้ป้าย “พระพุทธศากยมุนี” ได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ ๙ ในปี ๒๕๒๗
เมื่อมีการบูรณะวัดครั้งใหญ่พร้อมพระราชลัญจกร จปร. และ ภปร. ด้านหน้าวิหาร ขณะที่องค์พระพุทธรูปข้อมูล
ไม่ชัดเจนว่าส่งไปจากไทยในสมัยรัชกาลที่ ๕ หรือ ๙
ส่วนพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาล
ที่ ๕ สร้างโดยความร่วมมือของคนไทยในนาโกยะโดยรัชกาลที่ ๑๐ (ขณะดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสา
ธิราชฯ) เสด็จพระราชดำเนินไปเปิดเมื่อ
ปี ๒๕๓๐ ระหว่างเสด็จฯ เยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ โดยทุกวันที่ ๒๓ ตุลาคมของทุกปีสถานทูตไทย ณ กรุงโตเกียว
สถานกงสุลไทย ณ เมืองโอซากะ จะจัดพิธีวางพวงมาลา
ในวัดยังมีต้นโพธิ์ขนาดเล็กสองต้นที่ปลูกโดยในหลวงรัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เมื่อคราวเสด็จฯ เยือน
ญี่ปุ่นและเสด็จฯ มาที่วัดในปี ๒๕๐๖
ที่นี่จึงเป็นวัดญี่ปุ่นที่มีของที่ระลึกเกี่ยวพันกับไทยมากที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งน่าเสียดายว่าคนไทยจำนวนมากไปเที่ยวญี่ปุ่นแต่น้อยคนนักที่จะได้ไปเยือนวัดที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งนี้