เบาบับ ลูกไม้จาก
ดาวเคราะห์น้อย บี ๖๑๒
ดาวเคราะห์น้อย บี ๖๑๒
ธรรมชาติ ทำมาโชว์
เรื่อง : สุชาดา ลิมป์
ภาพ : บันสิทธิ์ บุณยะรัตเวช
ภาพ : บันสิทธิ์ บุณยะรัตเวช
เจ้าชายน้อย ฉบับภาษาไทยล้วนแปลคำ “les baobabs” ว่า “ต้นไทร” ตามจริง “เบาบับ” เป็นพืชผลัดใบสกุล Adansonia ต่างจากไทรที่เป็นพืชยืนต้นสกุล Ficus ถึงอย่างนั้นในโลกวรรณกรรมเราต่างเข้าใจตรงกันว่าหมายถึง
“...ต้นไม้ที่ใหญ่ราวกับวัด ต่อให้เกณฑ์ช้างทั้งโขลงมาก็คงไม่สามารถกินต้นไม้ชนิดนี้หมดต้น”
ถ้าให้จินตนาการถึงที่มาต้นเบาบับบนดาวเคราะห์น้อย บี ๖๑๒
เดาว่าน่าจะมี “เมล็ดเบาบับ” เดินทางออกนอกโลกมาจากทวีปแอฟริกา เพราะเป็นถิ่นกำเนิดพืชสกุลนี้ (แต่ก็อาจมาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะปลูกแพร่หลายที่เกาะชวาหรือฟิลิปปินส์)
“...ต้นไม้ที่ใหญ่ราวกับวัด ต่อให้เกณฑ์ช้างทั้งโขลงมาก็คงไม่สามารถกินต้นไม้ชนิดนี้หมดต้น”
ถ้าให้จินตนาการถึงที่มาต้นเบาบับบนดาวเคราะห์น้อย บี ๖๑๒
เดาว่าน่าจะมี “เมล็ดเบาบับ” เดินทางออกนอกโลกมาจากทวีปแอฟริกา เพราะเป็นถิ่นกำเนิดพืชสกุลนี้ (แต่ก็อาจมาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะปลูกแพร่หลายที่เกาะชวาหรือฟิลิปปินส์)
ถ้าให้จินตนาการต่อว่าเมล็ดเบาบับเดินทางไกลขนาดนั้นอย่างไร
เดาว่าอาจถูกนำพาโดยวิธีเดียวกับใน เจ้าชายน้อย คืออาศัยฝูงนกอพยพในปีใดปีหนึ่งที่ฝูงนกขนสีขาวไม่ทราบสายพันธุ์เหล่านั้นพากันไปเยือนทุ่งหญ้าสะวันนา แล้วพบต้นไม้ผลัดใบ ไม่มีหนาม ลำต้นโป่งพองคล้ายขวดแชมเปญยักษ์ตั้งตระหง่าน ท่ามกลางบริเวณร้อนแล้งฝูงนกเหล่านั้นน่าจะถูกใจกับรสเปรี้ยวเล็กน้อยพอชุ่มคอจากเนื้อที่เป็นเยื่อในผลนุ่มแห้ง ลักษณะยาวคล้ายแคปซูลของเจ้าต้นไม้ประหลาด
ที่มีกิ่งก้านสาขาบิดเบี้ยวไปมา แตกทรงพุ่มคล้ายเอารากชี้ฟ้า เจ้าฝูงนกจากถิ่นหนาวจึงพากันจิกกินเนื้อแล้วกลืนเมล็ดลงท้อง ครั้นสิ้นสุดฤดูกาลก็พากันอพยพอีกครั้งจากดาวโลกสู่ห้วงเอกภพ
เป็นได้ว่าระหว่างทางบินผ่านดาวเคราะห์น้อย บี ๖๑๒ คงมีนกหลายตัวในฝูงนั้นอึตกลงผืนดิน...ปุ๊ !
เดาว่าอาจถูกนำพาโดยวิธีเดียวกับใน เจ้าชายน้อย คืออาศัยฝูงนกอพยพในปีใดปีหนึ่งที่ฝูงนกขนสีขาวไม่ทราบสายพันธุ์เหล่านั้นพากันไปเยือนทุ่งหญ้าสะวันนา แล้วพบต้นไม้ผลัดใบ ไม่มีหนาม ลำต้นโป่งพองคล้ายขวดแชมเปญยักษ์ตั้งตระหง่าน ท่ามกลางบริเวณร้อนแล้งฝูงนกเหล่านั้นน่าจะถูกใจกับรสเปรี้ยวเล็กน้อยพอชุ่มคอจากเนื้อที่เป็นเยื่อในผลนุ่มแห้ง ลักษณะยาวคล้ายแคปซูลของเจ้าต้นไม้ประหลาด
ที่มีกิ่งก้านสาขาบิดเบี้ยวไปมา แตกทรงพุ่มคล้ายเอารากชี้ฟ้า เจ้าฝูงนกจากถิ่นหนาวจึงพากันจิกกินเนื้อแล้วกลืนเมล็ดลงท้อง ครั้นสิ้นสุดฤดูกาลก็พากันอพยพอีกครั้งจากดาวโลกสู่ห้วงเอกภพ
เป็นได้ว่าระหว่างทางบินผ่านดาวเคราะห์น้อย บี ๖๑๒ คงมีนกหลายตัวในฝูงนั้นอึตกลงผืนดิน...ปุ๊ !
“บนดาวที่เจ้าชายน้อยอาศัยมีลักษณะคล้ายกับดาวอื่น คือมีทั้งต้นกล้าที่ดีและเลว เมล็ดพันธุ์ที่ดีจะให้ต้นกล้าดี เมล็ดพันธุ์ที่ไม่ดีก็ให้ต้นกล้าไม่ดี แต่เราไม่อาจมองเห็นเมล็ดพันธุ์นั้น มันจะนอนหลับอย่างเงียบเชียบอยู่ใต้ดินจนกระทั่งอยากตื่นเอง เมื่อนั้นกิ่งก้านจึงค่อย ๆ เหยียดทะลุดินออกหาแสงแดด ถ้ามันเป็นกิ่งก้านของต้นหัวไชเท้าหรือต้นกุหลาบเราก็ปล่อยให้มันงอกขึ้นตามใจชอบได้ แต่ถ้าเป็นต้นไม้เลวต้องถอนทิ้งทันที สำหรับบนดวงดาวของเจ้าชายน้อย เบาบับคงเป็นเมล็ดพันธุ์เลว เพราะดินแดนบนดวงดาวนั้นมีขนาดเล็กมากอยู่แล้ว หากถูกรุกรานด้วยต้นเบาบับและปล่อยให้เติบโตก็คงกำจัดไม่ได้ มันจะขึ้นจนแน่นขนัดดวงดาว รากก็จะชอนไชลงดิน จนอาจทำให้ดวงดาวระเบิดได้”
“ทุกเช้าหลังแต่งตัวเสร็จจะต้องดูแลความสะอาดดวงดาว จำเป็นต้องกำจัดต้นเบาบับสม่ำเสมอทันทีที่เห็นมันขึ้นแทรกอยู่ในกอกุหลาบ ซึ่งมันดูคล้ายกันมากตอนที่ยังเป็นต้นกล้า ออกจะเป็นงานน่าเบื่อหน่ายอยู่หรอก แต่ก็ง่ายมาก”