"นักแปล"
ผู้ตีความจินตนาการ
แห่งดวงดาว ๓๓๑
เรื่อง : สุชาดา ลิมป์
Image
เป็นได้ว่าในหมู่ดาวจำนวน ๕๐๑,๖๒๒,๗๓๑ ดวง (กรรมสิทธิ์ของนักธุรกิจผู้มั่งคั่งแห่งดวงดาว ๓๒๘) อาจมีรายชื่อ “ดาวเคราะห์น้อย ๓๓๑” ตั้งอยู่ไม่ห่างจากที่อาศัยของนักภูมิศาสตร์ - ชายชรารอบรู้แห่งดวงดาว ๓๓๐ เพียงแต่เจ้าชายน้อยไม่ได้แวะเยี่ยมเยียน เพราะนักภูมิศาสตร์แนะนำให้เขาเดินทางต่อไปยังโลกมนุษย์ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังกว่า จึงไม่ได้รู้ว่าดาวดวงนั้นเป็นที่อาศัยของ “นักแปล”

ทุกชีวิตบนนั้นล้วนมีหน้าที่ถ่ายทอดความหมายของข้อความในภาษาหนึ่งเป็นอีกภาษาโดยยังคงใจความเดิมไว้ตามต้นฉบับ พวกเขามีรสนิยมเล่นคำ-สำนวนแตกต่าง แม้แปลภาษาต้นฉบับเดียวกันเป็นภาษาเดียวกันก็ยังสรรคำที่ต่างกันแต่คงความหมายเดิมมาใช้ได้อย่างน่าทึ่ง

บนโลกก็มีนักแปลจำนวนมาก ภาษาอังกฤษได้รับการนำมาถ่ายทอดเป็นภาษาต่าง ๆ มากสุด เพราะแหล่งความรู้สมัยใหม่มักเขียนเป็นภาษาอังกฤษซึ่งได้การยอมรับเป็นภาษากลางของโลก

ดังนั้นแทนที่ ๖ เมษายน ค.ศ. ๑๙๔๓ สำนักพิมพ์เรย์นัลแอนด์ฮิตช์ค็อก (Reynal & Hitchcock) จะส่งเพียง Le Petit Prince สำนวนภาษาฝรั่งเศสไปจำหน่ายตามร้านหนังสือทั่วนิวยอร์กจึงส่ง The Little Prince สำนวนภาษาอังกฤษไปด้วยโดยมี แคเทอรีน วูดส์ (Katherine Woods) เป็น “นักแปลคนแรก” ของวรรณกรรมเรื่องนี้ แต่นั้นจวบปีที่ ๗๗ Le Petit Prince ก็ไม่เคยหยุดถ่ายทอดความหมายเลย
ถือเป็นการสร้างบรรยากาศใหม่แก่วงการนวนิยายให้มีโฉมหน้าแปลกไปอย่างไร้ขอบเขต

www.petit-prince.at รวบรวมข้อมูลไว้ในหน้า “Collection of Language Versions” ว่าปัจจุบันมีผู้แปล Le Petit Prince เป็นสำนวนต่าง ๆ ทั่วโลก ๓๖๙ ภาษา ไม่นับภาษาท้องถิ่นอีกมากมาย ทั้งยังอวดงานออกแบบศิลปกรรมกันหลากหลาย อย่างข้อมูลล่าสุดที่ไม่ได้รับการบันทึกคือ ๒ กุมภาพันธ์ ค.ศ. ๒๐๒๐ เริ่มวางจำหน่าย Güc’cüg Pirens ภาษาเดนิซลี (Denizli) ของชาวพื้นเมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ในประเทศตุรกี รูปปกแปลกตาด้วยเจ้าชายน้อยสวมชุดประจำเผ่าของเดนิซลีเต้นระบำอยู่บนดวงดาว บี ๖๑๒

เอาเข้าจริงทุกขณะที่เราต่างอ่าน เจ้าชายน้อย ในภาษาตนก็น่าจะมีภาษาอื่นจัดพิมพ์ขึ้นใหม่ตลอดเวลาทั้งภาษาประจำชาติและภาษาประจำถิ่น ยังไม่นับแต่ละประเทศที่มีการพิมพ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

หากให้บรรดานักแปลอยู่รวมกันบนดาว ๓๓๑ ดาวดวงนั้นจึงต้องมีขนาดใหญ่กว่าที่อาศัยของนักภูมิศาสตร์สัก ๔๐๐ เท่า เพราะลำพังนักแปล เจ้าชายน้อย ประเทศไทยเท่าที่สืบรู้ก็มี ๑๐ กว่าคนแล้ว

บ้างถ่ายทอดเป็นนิยายด้วยลีลาที่สอดคล้องกับต้นฉบับ บ้างทำเป็นการ์ตูนให้เข้าใจง่ายขึ้นด้วยภาษากระชับ ตัดคำไม่จำเป็น เน้นรูปประโยคสั้น แต่ยังถ่ายทอดความคิดสมเหตุสมผลตามต้นฉบับ
scrollable-image
แม้จะมีนักแปล เจ้าชายน้อย สำนวนภาษาไทยปรากฏผลงานมากมาย แต่คนไทยคุ้นเคยมากสุดกับการแปลในสำนวนของ อำพรรณ โอตระกูล เวลานั้นเธอเป็นอาจารย์สอนภาษาและวรรณคดีฝรั่งเศส ที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ควบบทบาทโฆษกกรมประชาสัมพันธ์ รายการกระจายเสียงภาคภาษาฝรั่งเศส และมีผลงานแปลวรรณกรรมฝรั่งเศสหลายเรื่อง

แรกแปล เจ้าชายน้อย “ฉบับแรกของไทย” จึงใช้ความสามารถแปลตรงจากต้นฉบับภาษาฝรั่งเศส ส่งให้สำนักพิมพ์ไทยวัฒนาพานิชเป็นผู้จัดพิมพ์ในปี ๒๕๑๒ ฐานะหนังสืออ่านสำหรับเยาวชน ก่อนได้รับการพิมพ์ซ้ำอีกหลายครั้ง กระทั่งต่อมาในปี ๒๕๔๐ บริษัทคำสมัย จำกัด จัดพิมพ์ฉบับปรับปรุงเพื่อใช้เฉพาะกิจเป็นของชำร่วยงานมงคลสมรสระหว่าง คำนูณ สิทธิสมาน และ สรวงมณฑ์ งามประเสริฐสิทธิ์

ที่พิเศษคือ เจ้าชายน้อย ฉบับพิมพ์โดยสำนักพิมพ์เรือนปัญญา ในปี ๒๕๔๖ วาระที่วรรณกรรม เจ้าชายน้อย ครบรอบ ๖๐ ปี เป็นการนำต้นฉบับภาพวาดดั้งเดิมในรูป CD-ROM คุณภาพสูงซึ่งจัดทำโดยทายาทของ อ็องตวน เดอ แซ็งแต็กซูว์เปรี มาตีพิมพ์ ทำให้เป็น “ฉบับพิมพ์ภาษาไทยเพียงหนึ่งเดียว” ที่มีภาพประกอบคุณภาพดีเป็นพิเศษเกิดขึ้น “ครั้งแรกในประเทศไทย” ก่อนจะพิมพ์อีกครั้งในปี ๒๕๕๓ โดยสำนักพิมพ์เรือนปัญญาเช่นเคย

สำนวนของอำพรรณมีลักษณะค่อนข้างเป็นทางการ ถือความถูกต้องของรูปแบบภาษาและตรงตามตัวอักษรเพื่อรักษาความหมายและโครงสร้างของต้นฉบับไว้ให้มากที่สุด มีบ้างที่ใช้การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการใช้คำเข้ามาช่วยให้เป็นไปตามหลักการใช้ภาษาไทย

ในท้ายเล่มของ เจ้าชายน้อย ฉบับครบรอบ ๖๐ ปี สำนักพิมพ์เรือนปัญญาได้บันทึกประวัติผู้แปลไว้ตอนหนึ่งใจความว่า อำพรรณเคยให้ความเห็นเกี่ยวกับการถ่ายทอดวรรณกรรมของเธอ
Image
Image
Image
“การแปลเป็นงานอิสระที่เปิดโอกาสให้เราได้เล่นกับภาษา...

“...ปัญหาสำคัญในการแปลคือ เมื่อต้องแปลเกี่ยวกับความคิด ภาพพจน์ หรือสำนวน ซึ่งไม่มีอยู่ในภาษาไทยเรา เช่น ความคิดทางปรัชญาตะวันตก ทางคริสต์ศาสนานิกายคาทอลิก ทางเทพนิยาย ฯลฯ อันเป็นรากฐานของวัฒนธรรมฝรั่งเศส”

อำพรรณ โอตระกูล อำลาโลกมนุษย์เมื่อ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๓๘ ไม่มีใครรู้ว่าเธอไปอยู่กับนักแปลอื่น ๆ บนดาวเคราะห์น้อย ๓๓๑ ไหม แต่ผลงานเจ้าชายน้อย ที่ฝากให้โลกมนุษย์ยังคงเป็นนิรันดร์และได้รับการพิมพ์ซ้ำต่อเนื่อง ฉบับล่าสุดพิมพ์ในวาระที่วรรณกรรม เจ้าชายน้อย ครบรอบ ๗๐ ปี โดยสำนักพิมพ์จินด์

อีกสำนวนภาษาไทยที่มีผู้นิยมไม่น้อยหน้าเป็นผลงานแปลของ อริยา ไพฑูรย์

อดีตบรรณาธิการสำนักพิมพ์แพรวเยาวชนผู้มีบทบาทใหม่ในฐานะเจ้าของ “ร้านหนังสือเล็ก ๆ” เป็นร้านหนังสืออิสระบนถนนยะหริ่งในตำบลบ่อยาง ย่านเมืองเก่าสงขลา ที่ใช้ความรักชอบส่วนตัวประดับแต่งร้านด้วยรูปวาด ตุ๊กตา และสินค้าที่ระลึกต่าง ๆ จากตัวละครโปรดในวรรณกรรม เจ้าชายน้อย

เดอะ ลิตเติ้ล พรินซ์ ที่จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์กาลเวลาในปี ๒๕๓๓ คือผลงานแรกที่ปรากฏชื่อเธอในฐานะผู้แปลวรรณกรรม The Little Prince และพิมพ์ครั้งที่ ๒ โดยเปลี่ยนปกในปี ๒๕๓๕ ไม่เพียงดึงดูดความสนใจโดยเลี่ยงไม่ใช้ “เจ้าชายน้อย” ตามชื่อเรื่องที่คุ้นเคยกันยุคนั้น สำนวนของเธอยังเด่นที่กลวิธีแปลทันสมัย บ้างแปลแบบสรุปความไม่เคร่งครัดโครงสร้างความหมาย หรือเดินตามแบบฉบับนัก

จะใช้ศิลปะโยกย้ายขยายความ ตัดทอน เปลี่ยนแปลงรูปคำหรือไวยากรณ์เข้ามาช่วยสร้างอรรถรส

ต่อมาในปี ๒๕๓๗ ได้รับการตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์สามสี อริยายังเป็นนักแปลที่มีส่วนสร้างความประหลาดใจแก่ผู้อ่านเสมอ ปี ๒๕๔๖ เธอมีโอกาสเล่นสนุกกับสำนักพิมพ์ยามเช้าเสนอหนังสือรูปแบบพิเศษ เจ้าชายน้อย Le Petit Prince ขนาด ๑๑๕x๑๖๐ มิลลิเมตร หน้าปกสีดำสนิท ประดับดาวสีเหลืองดวงเดียว ภายในเล่มไม่มีรูปประกอบเลย ทำให้ใช้กระดาษเพียง ๑๕๑ หน้า ด้วยเจตนารมณ์ที่ตั้งใจสื่อสารเรื่องบริสุทธิ์ผ่านจินตนาการตามโปรยปก
Image
Image
Image
Image
“เราจะเห็นอะไรได้ก็ด้วยหัวใจเท่านั้น
สิ่งสำคัญไม่อาจเห็นได้ด้วยตา”

ปี ๒๕๕๙ รายได้จากการจำหน่ายนำไปต่อยอดจัดพิมพ์หนังสือ เจ้าชายน้อย “ฉบับอักษรเบรลล์ภาษาไทย” แจกจ่ายห้องสมุดสำหรับผู้พิการทางสายตาทั่วประเทศ ความที่หนังสือมีข้อจำกัดพิมพ์ได้เล่มละ ๕๐ หน้า เจ้าชายน้อย เล่มจ้อยจึงถูกแบ่งเป็นสองเล่มใหญ่-หนา ด้วยราคาจัดทำชุดละ ๓๐๐ บาท แม้ไม่มีรูปประกอบแพรวพราวด้วยข้อจำกัดทางต้นทุน แต่นับเป็นฉบับแรกฉบับเดียวของไทยที่ทลายกำแพงในโลกการอ่าน เจ้าชายน้อย แก่ผู้พิการทางสายตา ที่แม้คนสายตาปรกติก็ยังตกหลุมรัก ฝันอยากคลำฉบับนี้สักครั้ง

[ต่อมาในโอกาสของการพิมพ์ Le Petit Prince ครบรอบ ๗๐ ปี La Fondation Antoine de Saint-Exupéry pour la jeunesse จึงได้เปิดตัวโครงการจัดพิมพ์ Le Petit Prince en Braille ขึ้นโดยได้รับความร่วมมือจากศาสตราจารย์โกลด การ็องด์ (Claude Garrandes) ศิลปินตาบอดชาวฝรั่งเศส ช่วยคิดการสร้างภาพวาดให้ผู้พิการทางสายตาได้รับชมเองอย่างคนทั่วไป ใช้เทคนิคการปั้นรูปนูนต่ำจากภาพในหนังสือ Le Petit Prince ที่คัดสรรมา ๒๓ ภาพเป็นต้นแบบทำปั๊มนูนลงกระดาษชนิดพิเศษที่มีความยืดหยุ่นและหนา ๓๐๐ แกรม โดยแสดงรายละเอียดไว้ครบสมบูรณ์ไม่ละเลยแม้เส้นผม หรือผ้าพันคอผืนเล็กของเจ้าชายน้อย]

ความสร้างสรรค์ของอริยายังส่งผลให้สำนวนของเธอได้รับเลือกใช้ในโอกาสแปลกใหม่เสมอ ปี ๒๕๖๑ เมื่อ เจ้าชายน้อย ครบรอบ ๗๕ ปี สำนักพิมพ์มองฟ้าก็นำมาปัดฝุ่นและพิมพ์ร่วมกับภาพประกอบที่วาดใหม่โดย เทพศิริ สุขโสภา (ศิลปินแห่งชาติ)  ต่อมาไม่นานในการพิมพ์ครั้งที่ ๒ ก็ทำฉบับพิเศษจำนวนจำกัด ทั้งปกอ่อนและปกแข็งออกมาเขย่าหัวใจนักสะสมให้สั่นไหวด้วยปกสองสี เล่มหนึ่งสีฟ้า อีกเล่มสีชมพู ออกแบบให้รูปเจ้าชายน้อยครึ่งหนึ่งอยู่บนปกสีหนึ่ง อีกครึ่งอยู่บนปกอีกสี จะเห็นสมบูรณ์ต่อเมื่อวางสองปกนั้นคู่กัน
Image
วันฟ้าใหม่ กลั้นใจกลืนความง่วงฝ่าลมหนาวมายังบริเวณจัดงานตั้งแต่ตี ๓ 

ตลอดทางเดินที่ทอดยาวถูกกั้นเป็นช่องสำหรับต้อนรับขบวนพาเหรดของทหารและเป็นรั้วรอบกันผู้ร่วมงานทะลักล้นขวางหน้าขบวนในตัว ทางเข้าได้รับการตกแต่งเป็นซุ้มให้เดินลอด ขึงป้ายผ้าขนาดใหญ่ที่มีข้อความภาษากะเหรี่ยงแปล
เป็นไทยว่า “งานรำลึกวันปฏิวัติกะเหรี่ยง ครบรอบ ๗๑ ปี” ขนาบข้างด้วยธงชาติกะเหรี่ยง ยิ่งความสว่างมาเยือนผู้คนก็มาถึงงานมากขึ้น จนในที่สุดก็เบียดเสียดกันด้วยความสนุก

ฝูงชนพร้อมใจสวมชุดชาติพันธุ์ มีบ้างที่สวมเสื้อสกรีนชื่องานเป็นที่ระลึก งานเริ่มอย่างเป็นทางการเมื่อลูกโป่งได้รับการปลดปล่อยขึ้นฟ้า ตามด้วยเสียงพลุกังวานทั่วบริเวณดั่งการประกาศก้องของอิสรภาพ ครั้นเริ่มขบวนพาเหรดของเหล่าพลทหารสับเท้าเป็นระเบียบเข้างานยิ่งเพิ่มความตื่นตาให้ผู้ร่วมงานคึกคัก ก่อนกรูเข้าจับจองพื้นที่เหมาะยืนชมนอกวงล้อมที่กำหนดให้เหลือพื้นที่ส่วนกลางสำหรับพิธีสวนสนาม

เหตุการณ์ในวงล้อมสะกดตาผู้ชมด้วยภาพทหารสามนายถือธงนำหน้าขบวน คนกลางถือธงสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ขนาบข้างด้วยนายทหารที่ถือธงองค์กรป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Defence Organization, KNDO) และธงกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Liberation Army, KNLA)

“สงครามไม่ใช่แค่หยิบปืนขึ้นมายิงใส่กัน ยังทำได้ด้วยการเขียน การพูด ด้วยวิถีชีวิตและวัฒนธรรม เช่นเดียวกับความตายที่เราไม่ได้ตายเพราะถูกยิงอย่างเดียว ยังอาจตายได้ด้วยท่อนไม้ มือเปล่า หรือยุงตัวเล็ก แม้แต่การหกล้มเพียงเล็กน้อย ฉะนั้นอย่ากลัวที่จะทำสงคราม”

มีนาคม ๒๕๖๒ แฟนนักอ่านได้ตื่นเต้นกว่าเดิมเมื่อมีเปิดตัวโครงการ “เจ้าชายน้อยภาษาถิ่นไทย” โดยได้รับการสนับสนุนทุนจัดพิมพ์จากผู้ก่อตั้งมูลนิธิ ฌ็อง-มาร์ก พร็อพสท์ เพื่อเจ้าชายน้อย (Fondation Jean-Marc Probst pour le Petit Prince) ที่สวิตเซอร์แลนด์ แล้วเริ่มต้นพิมพ์ลำดับแรกด้วย  (เจ้าจ๋ายน่อย ฉบับภาษาล้านนาต่อด้วย  (ซอปาอะโพควาชิ) ฉบับภาษาปกาเกอะญอ ผ่านการนำสำนวนแปลของอริยามา “ปริวรรต” (การแทนคำ) เป็นภาษาถิ่นอีกที เวลานี้ทั้งสองภาษากลายเป็น “แรร์ไอเท็ม” เรียบร้อย และเร็ว ๆ นี้จะมี “ภาษามลายู” ตามมา
Image
(ซอปาอะโพควาชิ)
ฉบับภาษาปกาเกอะญอ 

Image
(เจ้าจ๋ายน่อย) 
ฉบับภาษาล้านนา

Image
ครั้งหนึ่ง อริยา ไพฑูรย์ เล่าถึงชีวิตที่ผูกพันเกี่ยวกับงานแปล เจ้าชายน้อย
“แปลร่างแรกตั้งแต่อยู่มัธยม มีครูอาสาสมัครจากอเมริกาให้หนังสือมาบอกว่าถ้าจะเรียนสายศิลป์ฝรั่งเศสให้ลองแปลเล่มนี้จะได้เรียนรู้ภาษามากกว่าในห้องเรียน ตอนนั้นแปลแบบเด็กๆ รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างตามความเข้าใจตัวเอง พอโตมาทำงานเกี่ยวกับหนังสือจึงหยิบมาแปลใหม่แต่ยังคงบางสำนวนแบบเด็กๆ ไว้ เพราะคิดว่าผู้เขียนต้องการสื่อสารกับเด็กๆ และภาษาของต้นฉบับก็ไม่ยากหรือซับซ้อน ที่ยากคือต้องทำความเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ต่างหาก ซึ่งตอนแปลรอบแรกในวัยมัธยมเรายังไม่เข้าใจ”
อย่างที่รู้กันว่างานเขียนทุกประเภทนักแปลจำต้องแม่นยำภาษาต่างประเทศและวาทศิลป์ภาษาไทยในการสื่อความให้คนทุกระดับเข้าใจง่ายด้วยสำนวนสละสลวยมากที่สุดและไม่ทำให้เนื้อหาผิดจากต้นฉบับ

โดยเฉพาะเมื่อเป็นวรรณกรรมที่ “เขียนขึ้นเพื่อเสียดสีสังคม” นักแปลยิ่งต้องศึกษาประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ประเพณีของผู้คนยุคนั้นซึ่งต่างจากสังคมไทย เพื่อจะเข้าใจความหมายแฝงของผู้เขียนต้นฉบับว่าต้องการสื่อสารอะไร จะได้ถ่ายทอดจุดประสงค์นั้นไปยังผู้อ่านฉบับแปลได้ถูกต้อง

“เพราะภาษาคือจุดเริ่มต้นของความเข้าใจผิด”
กลวิธีสื่อสารจินตนาการ
จึงมีความสำคัญมาก

ปูมหนังสือแปล เจ้าชายน้อย 
ฉบับภาษาไทย ปี ๒๕๑๒-๒๕๖๓

รวบรวมจากสำนักหอสมุดแห่งชาติ, สำนักงานวิทยทรัพยากร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, หอสมุดแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, หอสมุดและคลังความรู้มหาวิทยาลัยมหิดล และสำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยศิลปากร (รายการนี้อาจไม่ครบถ้วนทั้งหมด)
๒๕๑๒
อำพรรณ โอตระกูล, ผู้แปล. พระนคร : ไทยวัฒนาพานิช, ๒๕๑๒.

๒๕๑๕
อำพรรณ โอตระกูล, ผู้แปล. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช, ๒๕๑๕.

๒๕๒๒
อำพรรณ โอตระกูล, ผู้แปล. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช, ๒๕๒๒.

๒๕๓๓
บุษบง โควินท์, ผู้แปล. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช, ๒๕๓๓. ISBN : 974-07-6483-5

๒๕๓๕
สมบัติ เครือทอง, ผู้แปล. กรุงเทพฯ : ประพันธ์สาส์น, ๒๕๓๕. ISBN : 974-230-487-4

๒๕๓๗
อริยา ไพฑูรย์, ผู้แปล. กรุงเทพฯ : สามสี, ๒๕๓๗. ISBN : 974-7053-45-4

๒๕๔๐
อำพรรณ โอตระกูล, ผู้แปล. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช, ๒๕๔๐.

๒๕๔๑
พงาพันธุ์, ผู้รวบรวม. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์กรุงเทพ, ๒๕๔๑. ISBN : 974-300-090-9

๒๕๔๒
พงาพันธุ์, ผู้แปล. กรุงเทพฯ : ศรีสารา, ๒๕๔๒. พิมพ์ครั้งที่ ๓. ISBN : 974-300-090-9

๒๕๔๖
อริยา ไพฑูรย์, ผู้แปล. กรุงเทพฯ : หนังสือยามเช้า, ๒๕๔๖. ISBN : 974-909-417-4

๒๕๔๖
อำพรรณ โอตระกูล, ผู้แปล. กรุงเทพฯ : เรือนปัญญา, ๒๕๔๖. ISBN : 974-908-265-6 (ปกอ่อน), 974-909-312-7 (ปกแข็ง)

๒๕๕๓
อำพรรณ โอตระกูล, ผู้แปล. กรุงเทพฯ : เรือนปัญญา, ๒๕๕๓. พิมพ์ครั้งที่ ๑๖. ISBN : 978-974-908-265-2

๒๕๕๖
พรทิพย์ อินทรพรหม, ผู้แปล. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช, ๒๕๕๖. ISBN : 978-974-07-2204-5

๒๕๕๖
อำพรรณ โอตระกูล, ผู้แปล. เชียงใหม่ : จินด์, ๒๕๕๖. ISBN : 978-616-916-011-3

๒๕๕๙
อริยา ไพฑูรย์, ผู้แปล. นนทบุรี : ศูนย์เทคโนโลยีการศึกษาเพื่อคนตาบอด, ๒๕๕๙.

๒๕๖๑
อริยา ไพฑูรย์, ผู้แปล. เชียงใหม่ : มองฟ้า, ๒๕๖๑. ISBN : 978-616-805-506-9
ฉบับการ์ตูน
๒๕๕๒
นันท์นิชา หาญระพีพงศ์. ฉบับการ์ตูน. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์บุ๊คเวฟ, ๒๕๕๒. ISBN : 97861155202512

๒๕๕๒
อธิชา มัญชุนากร กาบูล็อง. ฉบับการ์ตูน. กรุงเทพฯ : กำมะหยี่, ๒๕๕๒. ISBN : 978-611-900-423-8

๒๕๕๔
หวง, เย่าเจี๋ย. กระดิ่งหยก. ฉบับการ์ตูน. กรุงเทพฯ : ฟิสิกส์เซ็นเตอร์, ๒๕๕๔. ISBN : 978-974-434-595-0

๒๕๕๗
สาริณี โพธิ์เงิน. ฉบับการ์ตูน. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชั่น, ๒๕๕๗. ISBN : 9786160820665
เอกสารประกอบการเขียน
อำพรรณ โอตระกูล. เจ้าชายน้อย. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช, ๒๕๒๗.
. เจ้าชายน้อย ฉบับครบรอบ ๖๐ ปี. กรุงเทพฯ : เรือนปัญญา, ๒๕๔๖.