90s is back!
เรื่อง : ธัชชัย วงศ์กิจรุ่งเรือง
ทุกวันนี้หากนึกอยากดูหนังสักเรื่องนั้นเหมือนจะเป็นสิ่งแสนสะดวกง่ายดาย ใครที่ใช้บริการสตรีมมิงเมื่อกดใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือหรือเครื่องเล่นสื่อดิจิทัลก็มีหนังให้ดูนับพันเรื่อง เลือกเปิดฟรีทีวีก็มีช่องฉายหนังและซีรีส์ให้ชมเกือบตลอดทั้งวัน หรืออยากจะดูหนังนอกบ้านก็มีหนังหลายเรื่องให้เราเลือกซื้อตั๋วผ่านแอปพลิเคชันแล้วเข้าชมในโรงที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า
สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นไม่มีในยุค 90s แต่อย่างใด...
ย้อนไปเมื่อครั้งอดีต วันที่ความบันเทิงจากสื่อต่าง ๆ และเครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งอำนวยความสะดวกในบ้านยังไม่มีทางเลือกให้มากนัก...ย่านพื้นที่ชุมชนทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่าง ๆ มักมีโรงภาพยนตร์ตั้งอยู่พร้อมป้ายโฆษณาขนาดใหญ่วาดด้วยมือ ดึงดูดสายตาให้สนใจชมหนังหลากรส รวมถึงรถแห่ประชาสัมพันธ์จูงใจให้คนอยากดูหนังโปรแกรมใหม่ ๆ อีกด้วย
มิหนำซ้ำเราอาจยังตื่นเต้นกับเพียงแค่โฆษณากรอบเล็ก ๆ ในหนังสือพิมพ์ที่เขียนคำโปรยดึงดูด และหากอยากรู้ว่าหนังเรื่องไหนได้รับความสนใจ พื้นที่ด้านล่างของหน้าดังกล่าวจะมีรอบฉายของโรงหนังแต่ละแห่งให้ลุ้นรอบฉายทั้งที่อาจไม่ได้มีโอกาสดูเลยก็มี
ที่โรงภาพยนตร์ มักตกแต่งโอ่โถง มีบันไดขนาดใหญ่ ผนังมีโชว์การ์ดและโปสเตอร์โปรแกรมหนังเรื่องถัดไปในตู้โชว์ตัดกับผ้ากำมะหยี่สีแดงเข้ม ไม่ไกลจากทางเข้าชมคือซุ้มขายป็อปคอร์น ขนมขบเคี้ยว และน้ำอัดลม
เมื่อเข้าโรงหนัง...ที่นั่งเบาะหนังนุ่มสบาย เครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ และทันทีที่หนังฉายผ่านจอสีขาวกลางความมืด เราก็ราวกับเข้าไปอยู่อีกโลกหนึ่งที่คนดูพร้อมจะหัวเราะไปกับความตลกขบขัน นิ่งงันไปกับเรื่องสะเทือนใจ ส่งเสียงกรี๊ดไปกับเหตุการณ์ตื่นเต้นที่ในชีวิตจริงไม่เคยประสบพบเจอ
ภาพ : หอสมุดแห่งชาติ
ยุคทอง
หนังฮ่องกง
ในช่วงพฤศจิกายน ๒๕๑๙ รัฐบาลไทยยุค ธานินทร์ กรัยวิเชียร ประกาศขึ้นภาษีการนำเข้าฟิล์มภาพยนตร์จากต่างประเทศ จากเมตรละ ๒.๒๐ บาท เป็น ๓๐ บาท จนผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ทั้งเจ็ดบริษัทของสหรัฐอเมริกาโต้ตอบด้วยการบอยคอตไม่นำหนังเข้าฉายจนถึงเดือนพฤษภาคม ๒๕๒๓ นี่คือปัจจัยส่วนหนึ่งที่ทำให้ตลาดภาพยนตร์ในยุคนั้น ไม่ได้ถูกครองพื้นที่ด้วยหนังฮอลลีวูดเหมือนกับอีกหลายประเทศ
แม้ผ่านพ้นช่วงการบอยคอตจากค่ายหนังฮอลลีวูดไปแล้ว แต่ภาษีฟิล์มของหนังจากอเมริกาก็ยังคิดในราคาสูง ทำให้มีการคัดหนังที่มาลงโปรแกรมฉายน้อย กลายเป็นเวลาทองของหนังอเมริกาจากค่ายเล็กและหนังจากประเทศอื่นที่ยังมีพื้นที่การฉายไม่ได้น้อยหน้ากัน